จากกรณีเพจ “บีกาแฟสด” เล่าเรื่องราวลูกค้านำเครื่องชงกาแฟมาให้ซ่อม โดยแจ้งว่าเครื่องเสีย ไม่สามารถกดปุ่มได้ แต่เมื่อเปิดดูเครื่องถึงกับสยอง เพราะสาเหตุที่ปุ่มกดไม่ได้ เพราะแมลงสาบอัดแน่นอยู่ด้านใน จนกลายเป็นไวรัลทั้งโซเชียล

ช่างบี ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวตนช่างซ่อมเครื่องชงกาแฟอยู่แล้ว ลูกค้าติดต่อมาทางเพจว่า จะส่งเครื่องชงกาแฟมาให้ซ่อม อาการคือปุ่มกดไม่ได้ พอได้เครื่องมา ลองแกะชิ้นส่วนเบื้องต้น ทำความสะอาดรอบๆ เครื่อง ปุ่มก็ยังกดไม่ได้อยู่ ตนคิดว่าน่าจะมีปัญหาที่แผงวงจร จึงลองแกะเครื่องดูแผงวงจร ทำให้พบภาพสุดช็อก เจอซากสุสานแมลงสาบ ตายอัดแน่นอยู่ข้างใน และมีจำนวนเยอะกว่าในรูปที่โพสต์ ที่ถ่ายไม่ติดยังมีอีกเยอะ ตั้งแต่เป็นช่างซ่อมเครื่องชงกาแฟมา ตนไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย

แต่ปัญหาสัตว์เข้ามาทำรังในเครื่องชงกาแฟ โดยเฉพาะเครื่องที่ใช้มานาน มักพบปัญหานี้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เคยเจอเยอะขนาดนี้ ที่เคยเจอมีทั้งตะขาบ หนูตัวเล็กๆ ที่มาคลอดไว้ก็เจอบ่อย แต่ว่าไม่ได้เยอะแบบนี้ นี่เหมือนเป็นฝูงแมลงสาบที่เยอะมากก็เลยโพสต์ในเพจตัวเอง จนกลายเป็นดรามาเพราะหลายคนคิดว่าเป็นเครื่องชงกาแฟที่ใช้งานบริการขายให้ลูกค้าตามปกติ ก็คิดว่าเครื่องชงกาแฟสกปรก

สำหรับลูกค้ารายนี้ น่าจะปิดร้านไปนานแล้ว เครื่องนี้ก็น่าจะเก็บไว้นานพอสมควร พอจะใช้ก็เลยส่งมาซ่อม สุดท้ายพบว่าแมลงสาบไปทำรังอยู่

ยืนยันว่า ชิ้นส่วนที่พบซากสุสานแมลงสาบ เป็นส่วนแผงวงจรไม่ใช่ระบบน้ำ ซึ่งมันจะไม่ไปปนกันกับน้ำที่ชงขายให้กับลูกค้าแน่นอน แต่เรื่องกลิ่นก็อาจจะมี ซึ่งถ้าเกิดมีแมลงสาบผสมไปในกาแฟของลูกค้าน่าจะมาจากภายนอกมากกว่าไม่ใช่จากเครื่องแน่นอน

ถ้าเป็นร้านขายกาแฟทั่วไป ที่ใช้เครื่องทุกวัน เปิดขายตลอด จะไม่เจอแมลงอยู่ในเครื่องแบบนี้แน่นอน เพราะเครื่องชงกาแฟเป็นเครื่องร้อน สัตว์ไม่สามารถเข้าไปทำรังในจำนวนที่เยอะขนาดนี้ได้

ช่างบียังบอกอีกว่า การดูแลรักษาเบื้องต้น เจ้าของร้านกาแฟทุกคนสามารถทำเองได้อยู่แล้ว ดูแลทำความสะอาด เช็ดล้างทั่วไปภายนอก แค่นี้ก็สะอาดแล้ว ล้างถังน้ำ ล้างหัวชง ร้านดังๆ บางร้านเขาก็จะมีทีมช่างประจำตรวจเช็กอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของแมลง แต่เป็นเรื่องของตะกรันน้ำมากกว่า ที่สะสมเพราะมันมีสารก่อมะเร็ง