ระนอง “เข้าใจชีวิตที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น” ทหารเทพสตรี ช่วยลูกต่างด้าว 3 ขวบ ขณะพ่อแม่อุ้มพาหนีลงแม่น้ำกระบุรี ก่อนเรียกแรงงานแอบตามป่าจากขึ้นฝั่ง รวม 8 คน ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
4 มิถุนายน 2565 – การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนจังหวัดระนอง พบแรงงานต่างด้าวยังคงหลบหนีผ่านช่องทางตามธรรมชาติ ข้ามลำน้ำกระบุรี ซึ่งมีความยาวตลอดสาย 95 กิโลเมตร อย่างต่อเนื่อง
พันเอก ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหาราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับรายงานจาก ทหารชุดปฎิบัติการพิเศษ กองกำลังเทพสตรี ที่สนธิกำลังร่วมเฝ้าระวังแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตลอดความยาว 95 กิโลเมตร
ขณะออกลาดตระเวนตามตะเข็บชายแดน ริมแม่น้ำกระบุรี ในพื้นที่ บ้านหนองผักบุ้ง ม.1 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ตรงข้ามกับหมู่บ้านเอชันตะ อ.เขม่าจี จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา
พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยบังเอิญ ขณะกำลังเดินเท้า ลุยน้ำมาตามป่าจาก พร้อมสัมภาระ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัว กลุ่มคนทั้งหมด วิ่งหลบหนีกลับลงน้ำลึกผ่านกอป่าจาก เจ้าหน้าที่ต้องรีบส่งกำลังลงลุยน้ำ เพื่อติดตามแรงงานชาวเมียนมากลับมาทั้งหมด หวั่นจะจมน้ำเสียชีวิต เพราะเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้นพอดี
โดยแรงงานรายแรกที่พบ แอบหนีไปซ่อนอยู่ที่กอป่าจาก ห่างตลิ่งเกือบ 30 เมตร น้ำลึกเกือบ 1 เมตรครึ่ง โผล่ขึ้นมาได้เพียงลำคอ จึงบอกให้ว่า “ออกมามานี่ ไม่ต้องหนี ไม่เป็นไร” เพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวตกใจ
ส่วนอีกรายมาเป็นครอบครัว พ่ออุ้มลูกสาววัย 3 ขวบ และแม่อีกคนที่หนีไม่คิดชีวิต ทหารต้องรีบเข้าไปช่วยอุ้มลูกมาให้พ้นน้ำลึกเสียก่อน แล้วให้พ่อรีบว่ายน้ำออกไปตามช่วยแม่กลับมาด่วน เดี๋ยวจะจมน้ำเสียชีวิต ทหารไทยไม่ทำอะไร เข้าใจชีวิตที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น เพียงแต่อยากจะให้เข้ามาในช่องทางที่ถูกกฎหมาย ก่อนจะส่งลูกสาวคืนให้พ่ออุ้ม และให้เดินกลับขึ้นตลิ่ง
พร้อมให้ตะโกนเรียกเพื่อนๆ แรงงานที่ยังหลบซ่อนอยู่ ให้ออกมาจากที่สอนในป่ากลางน้ำ และใช้เวลาไม่นานทุกคนก็ออกมา พร้อมกระเป๋าสัมภาระที่สะพายติดตัวกันมา รวมแรงงานชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งหมด 8 คน ชาย 6 คน หญิง 1 คน และ เด็กหญิง 1 คน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แรงงานทั้งหมดเดินทางมาจากเมืองทวาย 3 คน พ่อแม่ลูก มีความประสงค์จะเดินทางไปทำงานจังหวัดชุมพร โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าในราคาคนละ 16,000
ส่วนอีก 5 คน จะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย โดยเสียค่าใช้คนละ 20,000 บาท ก่อนถูกจับกุมนายหน้าได้ขับเรือมาส่งยังเป้าหมาย และชี้ให้เดินฝ่าน้ำขึ้นฝั่งไทยไปพักรอ เดี๋ยวจะมีรถมารับช่วงเดินทางต่อ แต่กลับผิดนัด คนไทยที่จะมารับไม่ทันเข้ามา ก่อนมาเจอกับทหารชุดลาดตระเวนเสียก่อน ทั้งขอบคุณทหารไทยที่ไม่ทำอะไรพวกตน และช่วยพวกตนให้ขึ้นจากแม่น้ำกระบุรี
จากนั้นดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนควบคุมแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่ง สภ.ปากจั่น เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป