จากกรณีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก อยู่ระหว่างรับการรักษา เสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด ซึ่งตั้งแต่ที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย เริ่มวันที่ 28 ก.พ. 2564 จนถึงปัจจุบัน เพิ่งจะมีรายงานว่ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้น
ล่าสุด (26 มี.ค.64) เวลา 11.10 น. นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ได้แถลงถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งมีโรคเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก ซึ่งทาง สธ. มีระบบการติดตามผู้ที่รับวัคซีนตั้งแต่ 1 3 7 15 และ 30 วัน โดยเหตุการณ์นี้ถือว่ารุนแรง จึงต้องมีการสอบสวนว่าเกิดจากอะไร ซึ่งจากประสบการณ์ของตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าเกิดจากเส้นเลือดในช่องท้องแตก ไม่น่าเกี่ยวกับวัคซีน
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น เป็นผู้ป่วยชาย เป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย อาการปกติดี แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ได้ไปฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม หลังจากฉีดวัคซีนในวันแรกและวันที่ 3 ปกติดี หลังจากนั้นระบบติดตามวัคซีนติดต่อไม่ได้ จากนั้นวันที่ 7 หลังฉีดมีอาการหน้ามืดเป็นลม จุกที่ลิ้นปี่ หอบเหนื่อย ส่งตัวแอดมินเข้าโรงพยาบาล จากนั้นมีอาการหนักขึ้นและเสียชีวิต
สันนิษฐานว่าสาเหตุการเสียชีวิต มาจากหลอดเลือดแตกหรือรั่วซึม ซึ่งเป็นโรคเดิมอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าไปรับวัคซีนมาพอดี แต่การเสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นผลจากการรับวัคซีน