สธ.เตือนงดกินของป่า-สัตว์ป่า หลัง “ฝีดาษลิง” ระบาดยุโรป เผยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 10%

Home » สธ.เตือนงดกินของป่า-สัตว์ป่า หลัง “ฝีดาษลิง” ระบาดยุโรป เผยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 10%


สธ.เตือนงดกินของป่า-สัตว์ป่า หลัง “ฝีดาษลิง” ระบาดยุโรป เผยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 10%

สธ.เตือนงดกินของป่า-สัตว์ป่า หลัง “ฝีดาษลิง” ระบาดยุโรป เผยมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 10% แนะล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ที่กำลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร มีแนวโน้มกำลังระบาดในยุโรปแล้ว พบผู้ติดเชื้อในโปรตุเกส 6 ราย ในขณะที่ยังมีผู้ป่วยอีกกว่า 12 ราย ที่อยู่ระหว่างการตรวจวินิจฉัยว่าจะติดเชื้อฝีดาษลิงหรือไม่ ซึ่งการระบาดมีลักษณะติดต่อ แบ่งเป็น

1.จากสัตว์สู่มนุษย์ จากการสัมผัสทางผิวหนัง หรือเยื่อเมือกเช่น จมูก ปาก หรือตา กับสัตว์ที่ป่วยเป็นโรค สารคัดหลั่ง เลือด ผิวหนัง หรือการนำซากสัตว์ป่วยมาปรุงอาหาร รวมทั้งการถูกสัตว์ป่วย ข่วน กัด หรือสัมผัส เครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อจากสัตว์นั้น

2.จากมนุษย์สู่มนุษย์ทางหลักติดต่อผ่านละอองฝอยทางการหายใจขนาดใหญ่ จากการอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะประชิด การสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย การสัมผัสเลือด หรือรอยโรคที่ผิวหนัง หรือของใช้ส่วนตัวที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย หลังได้รับเชื้อโรคนี้มีระยะฟักตัว 7-14 วัน หรืออาจนานได้ถึง 21 วัน

ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวถึงอาการเริ่มต้นว่า จะมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และมีต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งข้อแตกต่างระหว่างฝีดาษลิงและฝีดาษ คือในฝีดาษจะไม่มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต แต่ในฝีดาษลิงจะเกิดขึ้นภายใน 1-3 วัน หลังจากมีอาการป่วย จะเริ่มมีผื่นขึ้นบริเวณใบหน้าแล้วลามไปที่ผิวหนังส่วนอื่น จากนั้นผื่นจะนูนขึ้นเป็นตุ่ม แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และแตกออกเป็นสะเก็ดในที่สุด การดำเนินโรคจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ขณะที่อัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 มีสาเหตุจากภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในปอด การขาดน้ำและภาวะสมองอักเสบ การตรวจทางห้องปฏิบัติการใช้การตรวจด้วยวิธี PCR ของเหลวจากตุ่มน้ำที่ผิวหนัง รักษาโดยให้ยาต้านไวรัส Cidofovir, Tecovirimat และ Brincidofovir ปัจจุบันมีวัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิงในสหรัฐอเมริกา คือ JYNNEOS

“สำหรับการป้องกันเบื้องต้น แนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล งดรับประทานของป่า หรือปรุงอาหารจากสัตว์ป่า หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่าที่มาจากพื้นที่เสี่ยง หรือสัตว์ป่าป่วย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่มีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการ ในกรณีที่พบผู้สงสัยว่าจะติดเชื้อฝีดาษลิง แนะนำให้แยกผู้ป่วย ป้องกันระบบทางเดินหายใจของผู้ใกล้ชิด และนำส่งสถานพยาบาลที่สามารถแยกกักตัวผู้ป่วยได้ หลีกเลี่ยงการเลี้ยง หรือนำเข้าสัตว์ป่าจากต่างประเทศที่ไม่ทราบประเทศต้นทาง” พญ.มิ่งขวัญกล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ