สธ.สั่งสอบ "หมอชนบท" โพสต์ไร้งบวิจัยกัญชาการแพทย์ ยันปี 66 มี 80 ล้านบาท

Home » สธ.สั่งสอบ "หมอชนบท" โพสต์ไร้งบวิจัยกัญชาการแพทย์ ยันปี 66 มี 80 ล้านบาท



ปลัด สธ.มอบ นพ.สสจ.ตรวจสอบปม “หมอชนบท” โพสต์ไม่มีงบวิจัยกัญชาทางการแพทย์ ยันปี 66 มีงบวิจัยกว่า 80 ล้านบาท เผยปี 2562-2565 เกิดงานวิจัยกว่า 60 เรื่อง

จากกรณีชมรมแพทย์ชนบทโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ไม่มีงบประมาณการวิจัยกัญชาทางการแพทย์จากสำนักงบประมาณของแต่ละกรมกองในกระทรวงสาธารณสุขเป็น “ศูนย์” แสดงว่ากัญชาทางการแพทย์เป็นเพียงวาทกรรม

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ขณะนี้ได้มอบหมาย นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัด สธ.ให้ดูแลเรื่องนี้ และสอบถามไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) แห่งนั้นๆ ว่า การสื่อสารดังกล่าวออกมาจากแหล่งใด ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่อย่างไร กำลังรอข้อมูลตรวจสอบเรื่องนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ในปี 2562 สธ.ได้เดินหน้าศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปลูกและผลิตเป็นยาใช้เองได้ ช่วยลดรายจ่ายการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และสร้างรายได้จากการส่งออกและดึงผู้ป่วยจากต่างประเทศเข้ามาใช้บริการ

โดยมีการทบทวนข้อมูลทางวิชาการอย่างเป็นระบบ และจัดทำแนวทางการใช้กัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงว่ายากัญชาจะช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพเรื่องใดได้บ้าง ในด้านการศึกษาวิจัย รพ.และกรมวิชาการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมสุขภาพจิต และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต่างเร่งศึกษาวิจัย

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า โดยได้รับงบประมาณจากหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยต่างๆ เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นต้น ซึ่งจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงานวิจัยมากกว่าการใช้งบประมาณปกติที่ต้องดำเนินการให้ทันในปีงบประมาณ เนื่องจากงานวิจัยบางเรื่องต้องใช้เวลาหลายปี และอาจมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการดำเนินงานวิจัย ซึ่งตั้งแต่ปี 2562-2565 มีผลงานศึกษาวิจัยเกิดขึ้นถึง 60 เรื่อง ครอบคลุมตั้งแต่การนำไปใช้ประโยชน์ การผลิตและสกัด สายพันธุ์ และระบบการกำกับติดตามให้เกิดการใช้ที่ปลอดภัย

“งานวิจัยกว่าครึ่งเป็นการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของการใช้ยากัญชาหลักๆ ใน 3 กลุ่มโรค คือ มะเร็ง นอนไม่หลับ และโรคทางสุขภาพจิตที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยามาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์ที่เป็นผู้สั่งใช้ยาให้ผู้ป่วยแล้ว ยังถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเสนอบรรจุยากัญชาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ 7 รายการ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังส่งผลต่อเกษตรกรให้มีตลาดรองรับที่ชัดเจนจากการปลูกกัญชา”

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2566 สธ.ยังมีการศึกษาวิจัยกัญชา กัญชง ครบวงจร ภายใต้งบวิจัยมากกว่า 80 ล้านบาท เช่น งบจาก สกสว. 4,106,000 บาท งบประมาณกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 15,000,000 บาท งบกองทุนภูมิปัญญา 13,370,000 บาท งบจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) 2,716,000 บาท เป็นต้น โดยจะเน้นเรื่องการวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาเครื่องมือและวิธีการเพื่อควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สั่งใช้ยา ผู้ป่วย และผู้บริโภค

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการวิจัยจากงานประจำ เนื่องจากมีความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ นำไปสู่การส่งเสริมการใช้อย่างแท้จริงของพื้นที่โดยในแผนบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขากัญชา ปีนี้ได้เพิ่มเติมให้ทุกเขตสุขภาพมีการวิจัยหรือจัดการความรู้อย่างน้อยปีละ 2 เรื่อง นอกเหนือจากตัวชี้วัดเรื่องการเข้าถึงยากัญชาของผู้ป่วยด้วย

ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เวลาทำวิจัยในคนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการขอจริยธรรม ต้องผ่านกระบวนการจำนวนมาก ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ปีเดียวจบ เพราะปีงบประมาณส่วนใหญ่จะปีเดียวจบ แต่ในกรมการแพทย์ รพ. มีเงินบำรุง มีเงินกองทุนวิจัย มีสถาบันวิจัยอยู่ในกรมการแพทย์ มีหน้าที่ดูวิจัยทั้งหมด เพราะเราเป็นกรมวิชาการ มีกองทุนวิจัยในการให้เงินทำวิจัยอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องกัญชาทางการแพทย์

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า จริงๆ ในระบบมีการศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์อยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นความมั่นคงทางยาด้วย เนื่องจากบริษัทยาปัจจุบันไม่ค่อยวิจัยยาจากพืชเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงานรัฐในการศึกษาเรื่องนี้ อย่าง รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่นศึกษาเรื่อง CBD มาช่วยผู้ป่วยติดยาเสพติดชนิดรุนแรง ใช้งบกว่าล้านบาท นอกจากนี้ ยังร่วมกับเอกชนวิจัย CBD ต่อสู้กับมะเร็ง ซึ่งกำลังศึกษาเช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ