สธ. ยอมรับ เตียงไม่พอ หวัง 14 วัน ยอดผู้ป่วยลด 50% แนะกักตัวที่บ้าน มีแพทย์แนะนำทุกวัน
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงมาตรการทำ Home Isolation หรือการแยกตัวที่บ้าน เพื่อรักษาอาการ และ Community Isolation หรือการดูแลตนเองในระบบชุมชนเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการอยู่ในระดับสีเขียวหรืออาการไม่รุนแรงในชุมชน จึงเกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเตียงเต็ม และลดความรุนแรง การแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการแยกกักตัว นั้น ให้เป็นความสมัครใจผู้ป่วย ที่ติดเชื้อโควิด19 ในระดับอาการไม่รุนแรง โดยเจ้าหน้าที่คอยติดตามอาการของผู้ป่วยทุกวัน จะมีช่องทางติดต่อกับผู้ป่วย ผ่านระบบเทเลคอเฟอร์เรนซ์ ที่สามารถคุยกับคนไข้วันละ 2 ครั้ง มีอุปกรณ์วัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนในกระแสเลือด
ทั้งนี้ ในการทดลองของ รพ.ราชวิถี ที่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 การแยกกักตัวที่บ้าน พบว่าสามารถรักษาหายได้เอง 20 ราย และหากผู้ป่วยต้องการ เข้าสู่ระบบ Home Isolation สามารถติดต่อผ่านสถานพยาบาล ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุข หรือ ติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช.1330 ซึ่งข้อดีของการแยกกักตัวทั้งที่บ้าน และการดูแลโดยชุมชน นั้น จะช่วยลดอัตราการครองเตียงที่ขณะนี้ ยอมรับว่า มียอดผู้ป่วยที่ครองเตียงกว่า 30,000 เตียง ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น
พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการแพทย์ ยังฝากถึง ประชาชนทั่วไปและทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันยกการ์ดให้สูงขึ้นอีก ให้อดทน ในระยะเวลา 14 วันนี้ หากช่วยกัน ลดอัตราการติดเชื้อโควิด ลง 40-50 % ประเทศไทยก็จะผ่านวิกฤตินี้ไปได้
ขณะที่ นพ.ธเรศ กรัศนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกับ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และได้เน้นย้ำ ว่า ในสถานการณ์ที่ ผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น อยากให้ รพ.เอกชน เข้าไปมีส่วนในการเข้าไปดูแลผู้ป่วยโควิด ซึ่งขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้ใช้ Rapid Antigen test (ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน )แล้ว และให้แนะนำผู้ป่วยโควิด ทำ Home Isolation เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายใน ภาคประชาชน