สงสารจับใจ ยายพาหลานตัวน้อย นอนเฝ้าลูกสาวผ่าตัดสมอง ถูกร้ายแอบย่องลักเงิน วอนคนร้ายโปรดเห็นใจ เป็นเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัวแล้ว
วันที่ 24 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เกวลิน อายุ 43 ปี บ้านอยู่ ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จูงมือหลานวัย 6 ขวบ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชานนท์ โสนะโชติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.30 น. ช่วงที่ตนเองไปอาบน้ำ ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยเงินในกระเป๋าขณะนอนอยู่ที่เรือนพักญาติ รพ.ศูนย์อุดรธานี เป็นเงินจำนวน 3,000 บาท อยากให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายเอาเงินมาคืนด้วย
เพราะเงินก้อนนี้เป็นก้อนสุดท้ายที่นำติดตัวมาเป็นค่าใช้จ่ายใช้กินใช้อยู่ เพื่อมาดูแลลูกสาวที่ป่วยเพื่อนอนเฝ้าไข้ลูกสาววัย 24 ปีที่ต้องผ่าตัดสมองครั้งที่ 3 และมากไกลจากอ.บ้านดุงเพื่อนอนเฝ้าอยู่นานถึง 2 เดือนแล้ว โดยหลานสาวที่เอามาด้วยก็เป็นลูกของลูกสาววัย 6 ขวบเอามาเพื่อเป็นกำลังใจให้แม่ที่ป่วยอยู่เพราะตอนนี้อาการหลังผ่าตัดนั้นไม่ดีขึ้นมีเพียงกระพริบตาและขยับได้เพียงเล็กน้อย
น.ส.เกวลิน เปิดเผยว่า ลูกสาวตนเองชื่อวิมลมณี อายุ 24 ปี แต่ก่อนทำงานขายอาหารตามสั่งที่จ.ภูเก็ต ต้องผ่าตัดสมองเป็นครั้งที่ 3 เพราะมีเลือดคั่งในสมอง หลังจากถูกสามีทำร้ายร่างกายจึงกลับมาอยู่บ้าน ผ่าตัดครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผ่าครั้งแรกก็ไปพักฟื้นที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นก็กลับมาใหม่ ผ่าตัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ตนเองจึงมาเฝ้า โดยนอนที่เรือนพักญาติกับหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวเอง
แต่เมื่อวานนี้ เงินในกระเป๋าประมาณ 3,000 บาทเศษได้หายไปทั้งเอกสารสำคัญ บัตรประชาชน atm ของธนาคาร คาดว่าคนร้ายเข้ามาขโมยในช่วงที่ตนเองอาบน้ำ รู้ว่าเงินหายเมื่อเช้าวันนี้ก่อนมาโรงพัก จะควักเอาเงินให้หลานสาวไปซื้อขนมแต่เงินไม่เหลือแล้ว เสียใจมากเราไม่มีเงินเหลือแล้วจึงเดินทางมาโรงพักเพื่อแจ้งความให้คนร้ายเอาเงินมาคืนเพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ตนเองมีอยู่ ที่ต้องเอาหลานมาด้วยเพื่อให้กำลังใจแม่เขาด้วย
ฝากถึงคนร้าย อย่าไปทำกับคนอื่น คิดถึงใจเขาใจเรา ยามไม่มีเงินก็ไม่มีจริงๆ พี่น้องก็ช่วยไม่ได้ตลอด สงสารคนที่มาเฝ้ามาเฝ้าหลาน ทุกข์พอแรงแล้วที่ลูกป่วย อย่ามาซ้ำเติมความทุกข์ให้เขาอีก ตอนนี้ตนไม่มีเงินเลยไม่รู้ว่าลูกที่ป่วยจะนอนโรงพยาบาลนานขนาดไหนนี่ก็เฝ้ามา 2 เดือน จากบ้านมารพ.เกือบ 100 กม.ขี่มาด้วยกัน 2 ยายหลานที่โปรดเอามาคืนเราด้วย น.ส.เกวลินพูดไปน้ำตาไหลไป
ต่อมา พ.ต.อ.อดุลย์ ขวัญมั่น รอง ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เดินทางมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดเหตุกับ 2 ตายาย พร้อมทั้งได้สั่งการให้ตร.ชุดสืบสวนพิรุณเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และยังได้ควักเงินตัวเองไปให้สองยายหลานไปซื้อกับข้าวกินเพราะทราบว่าไม่มีเงินเหลือติดตัวสักบาท
ล่าสุด พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ฉวีทอง รองผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ทราบข่าว ได้มอบเงินจำนวน 3,000 บาทให้กับสองยายหลานเอาไว้ใช้จ่าย และจะได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะหวั่นไปก่อเหตุกับญาติคนไข้รายอื่นๆ ขณะที่สองยายหลานยกมือท่วมหัวขอขอบคุณรองผกก.ใจดี และบอกอีกว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตร.ที่ช่วยเหลือครั้งนี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ขอเปิดรับบริจาคแต่อย่างใด