‘เอส-เจษ’จับคู่สุดดราม่าปะทะ‘วาววา’ร้าย‘วิมานทราย’ – ช่องวัน 31 เสิร์ฟละครโรแมนติก ดราม่า “วิมานทราย” จากปลายปากกาของ จามรี พรรณชมพู คว้า ‘เจษ’ เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ พลิกบทบาทจากผู้ชายนุ่มนวลชวนฝันมาเป็นพระเอกสุดเกรี้ยวกราดในบท ‘ภาณิน’ ประชันนางเอกเจ้าแม่ดราม่า ‘เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา’ ในบท ‘อลิศรา’

ร่วมด้วย ‘วาววา’ ณิชชา โชคประจักษ์ชัด (สิริรัศมี), ‘เบญ’ เรวิญานันท์ ทาเกิด (ลินจง),‘ยูจีน’ ธนาณัติ ภคธง ซิง (ภิญโญ), ‘น้องชร’ ด.ช.นนทฉัตรชัย กฤษณะประสิทธิ์ (พีท), โชแปง นุชอินทรา (โภไคย), ‘ป๊อก’ โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว (หมอชาญ), ‘เงิน’ อนุภาษ เหลืองสดใส (นนท์),

‘กบ’ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี (ภุชงค์), ‘หมู’ ดิลก ทองวัฒนา (บัญชา), ‘เจี๊ยบ’ ปวีณา ชารีฟสกุล (ศรีนวล) ฯลฯ ผลงานการกำกับฯ ของ ‘แมน’ เมธี เจริญพงศ์

ทั้งนี้ผู้กำกับฯ ‘แมน เมธี’ เผยถึงการทำงานละครแนวดราม่าเรื่องนี้ว่า “จริงๆ ผมสายดราม่าอยู่แล้ว ไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ รู้สึกดีมากกว่ากับทางช่องวัน แล้วกับทางเจษและทางเอส เพราะรู้อยู่แล้วว่าเอสเป็นเจ้าแม่ดราม่าอยู่แล้ว พอได้ทำงานแล้วก็ไม่ผิดหวัง ใส่อะไรไปเขารับได้หมดและตอบสนองเราได้ดี สำหรับเจษเป็นการพลิกบทบาทจากผู้ชายนุ่มนวลชวนฝัน เป็นสามีแห่งชาติของสาวๆ กลายมาเป็น ผู้ชายเกรี้ยวกราดมีอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง ขี้โมโห ขี้งอน ขี้น้อยใจ ซึ่งในช่วงแรกมีการจูนกับน้องพอสมควรว่าทำไมเขาถึงต้องร้ายกับ ผู้หญิงคนนี้ พอได้คุยกันลงตัวแล้วทุกอย่างก็ได้ภาพที่เราไม่เคยเห็นในตัวเจษ”

“โจทย์หลักของเจษที่ผมแอบตั้งคือทำยังไงดีที่จะให้ผู้ชายคนนี้ เกรี้ยวกราด ร้ายกับผู้หญิง ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ แต่คนดูต้องไม่เกลียดเขา เพราะฉะนั้นต้องหาเหตุผลมาซัพพอร์ตให้ตัวละคร ซึ่งน้องเล่นได้ทั้งอารมณ์และสายตาสื่อออกมาดีกว่าที่คิดไว้เยอะ ผมว่าน้องเป็นนักแสดงที่สื่ออารมณ์ทางสายตาได้ดี ทำให้เราเชื่อเลย”

‘เอสเธอร์-เจษ’ เคมีเป็นอย่างไรบ้าง “ตอนแรกๆ เหมือนยังไม่ค่อยคลิก แต่พออยู่ใกล้ชิดกัน มากองคุยเล่นละลายพฤติกรรมก็ทำให้เขาสองคนดูสนิทสนมกันมากขึ้น ละครเรื่องนี้ในช่วงต้นจะเป็นอะไร ที่แตกต่างกันพอสมควร เทปแรกๆ จะรู้สึกว่าพระนางรักกัน หวานแหววฟินจิกหมอนจะต่างจากเรื่องอื่นที่ต้นเรื่องพระนางดูกัดกัน ไม่ถูกกัน แต่เรื่องนี้ต้องทำให้คนดูเชื่อได้ทันทีว่าเขาสองคนรักกันมาก แล้วพอเขาเกิดความเข้าใจผิดมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในช่วงหวานจะรู้สึกว่าเขารักกันดี เพราะฉะนั้นเรื่องการส่งอารมณ์สายตาน้องสองคนทำได้ดีมากๆ เราดูแล้วยังฟินจิกหมอนเลย แต่ตอนทะเลาะกันก็แบบโคตรสงสารเอสอ่ะ ทำไมผู้ชายคนนี้ใจร้ายโหด มากเลย นี่คือคนที่คุณรักนะ”

ละครเรื่องนี้ท้าทายตัวเราอย่างไรบ้าง ผู้กำกับฯ เผยว่า “เรื่องนี้ นักแสดงใหม่เยอะมาก นักแสดงเด็กก็มี แล้วก็มีนักแสดงใหม่ หลายคน จะมีพูดไทยไม่ค่อยชัด เป็นเด็กอินเตอร์ เวลามาเล่นละครที่เป็นยุคพีเรียดนิดๆ สักปี 2518 จะมีเรื่องของภาษา การพูดการจา คำที่เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยเข้าใจภาษาในยุคนั้น ก็ได้พี่เจษและพี่เอสนี่แหละช่วยประคับประคองน้องนักแสดงรุ่นใหม่ที่บางคนเล่นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก อย่างยูจีน บางทีเราต้องพูดภาษาอังกฤษให้เขารู้ความหมายภาษาไทย ภาษาไทยคำไทยจะมีคำพ้อง อย่าง อย่ามาโยกโย้โยเย หรือ ยียวน อะไรพวกนี้ น้องจะไม่เข้าใจ ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจว่ามันคืออะไรนี่คือความยาก”

“แล้วการทำงานกับนักแสดงเด็ก อารมณ์เป็นเรื่องสำคัญ บางวันเขาง่วงก็จะไม่ได้ดั่งใจเรา บางวันเขาก็ดี นอนเต็มชาร์จแบตฯมาพร้อมก็จะได้อะไรที่เกินความคาดหมาย แต่อยากจะบอกว่าให้ดู น้องชรให้ดีๆ น่าจะขึ้นเป็นดาราเด็กได้แบบเบอร์ต้นๆ เลย ตอนแรกๆ จะไม่รู้สึกอะไร แต่พอเล่นๆ ไปแล้วแบบน้องมีของ มันจะค่อยๆ ออกมา ตอนแรกบทมาไม่ใช่ตัวหลักแต่เราใส่ไปเพิ่มเพราะบทมีทั้งดราม่า ร้องไห้กับพี่เจษ ร้องไห้กับพี่เอส มีทะเลาะกับพี่เจษ ทะเลาะกับพี่กบ ทะเลาะกับรุ่นใหญ่ได้น่าดูมาก สั่งร้องไห้คือร้องไห้เลย”

แล้วตัวร้ายเป็นอย่างไรบ้าง “ตัวร้ายนี่คือร้ายเลย แต่เป็นการร้ายไม่กรี๊ดกร๊าด เป็นร้ายมีชั้นเชิงมีแผน เพราะเรื่องนี้โจทย์จากผู้ใหญ่คือไม่อยากได้นางร้ายกรี๊ดตลาดแตก เหวี่ยงของ ปาของ แต่ทำยังไงให้รู้สึกว่าร้ายแล้วรู้สึกน่ากลัว ซึ่งเราได้วาววามาร่วมงานกับช่องวันครั้งแรก น้องทำได้ดีมากๆ จริงๆ เราเคยร่วมงานกันมาแล้วตอน ร้อยเล่ห์มารยา แล้วเราเห็นอะไรบางอย่างในตัวน้อง รู้สึกน้องเล่นทางลึกได้ดี ทางสายตาได้ดี เล่นแล้วคาดเดายาก ทางผู้ใหญ่เห็นด้วยก็เลยเชิญมาร่วมงานกับช่องวัน ก็แฮปปี้กันทุกฝ่าย”

ติดตามชมละครโรแมนติกดราม่า “วิมานทราย” ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่องวัน 31

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์