สกลธี ปราศรัยใหญ่ โดยมี หมอเหรียญทอง เพจ “เชียร์ลุง” ให้กำลังใจ ลั่นไม่เคยเสียใจที่เคยเป็นแกนนำกปปส. ขอโอกาสเป็นผู้ว่าฯกทม.

13 พ.ค. 2565 – เวลา 18.00 น. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “ทำงานเป็น เห็นปัญหา กล้าแก้ไข”

ภายในงานมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1,540 คน พร้อมด้วยอีดตแกนนำ กปปส. อย่าง นายณัฏฐพล-นางทยา ทีปสุวรรณ คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการบริษัท ศรีวิกรม์ กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ รวมถึง น.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือ แอดมินเจน เพจ “เชียร์ลุง”

นอกจากนี้ได้มีการเปิดตัวทีมงาน ประกอบด้วย น.ส.ณัฐรดา เลขะธนชลท์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ EdWings Education Co.Ltd, นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ อดีตรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (ททท.), นายฝันดี จรรยาธนากร นักแสดง, ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์, ดร.นริศรา ลิ้มธนากล และ นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร อดีตโฆษกกทม.

นายสกลธี กล่าวว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 9 ปี ขอให้ความมั่นใจกับคนกทม.ถึงจุดแข็งในการทำงานของตนเองว่า ตนเป็นคนที่ได้เห็นปัญหากรุงเทพฯมาโดยตลอด และเมื่อมีโอกาสได้เข้าไปเป็นรองผู้ว่าฯ ได้ทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่น เรื่องการจับรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า สามารถกวดขัน จับ ปรับ ได้ถึงปีละ 15 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังเห็นถึงปัญหาของ กทม. อีกหลายอย่าง ซึ่งเป็นจุดอ่อนในการทำงานของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นข้อบัญญัติที่มีความล้าหลัง การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้า – ประปา ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากอำนาจรองผู้ว่าฯ ที่มีอยู่อย่างจำกัดหลายอย่าง นำเสนอไปไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่ทำให้อยากจะเข้าทำงานในฐานะผู้ว่าฯ เพื่อทำให้กรุงเทพฯ และนโยบายที่ตนนำเสนอนั้น สามารถทำได้จริง ไม่เพ้อฝัน

“หลายคนสงสัยว่าผมกังวลหรือไม่ ที่มีคนขุดมาว่า ผมเคยเป็นแกนนำ กปปส. ด้วย ผมเรียนตรงนี้ว่า ผมไม่เคยเสียใจเลย ผมเชื่อมั่นในอุดมการณ์ในช่วงนั้น ที่ต่อสู้ร่วมกับพี่น้องอีกหลายล้านคน ในการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย การผลาญงบประมาณของชาติไปกับนโยบายจำนำข้าว ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้าน”

นายสกลธี กล่าวต่อว่า ตนขอโอกาสจากคนกรุงเทพฯ ตนพร้อมบริหารกรุงเทพฯ ตนหาเงินได้ ใช้เงินเป็น กระจายเงินไปยังเขต เชื่อว่าคนกรุงเทพฯทุกคน จะเป็นกุญแจสำคัญทำให้ได้กลับไปทำงานในศาลาว่าการฯกทม.