สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 บุกทลายแหล่งจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ลักลอบนำเข้ากว่าสองหมื่นชิ้น มูลค่า 10 ล้านบาท โทษจำคุกหนัก ปรับสี่เท่าของราคารวมค่าอากร
10 พ.ค. 66 – สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 มอบหมาย นายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม
นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรช่องจอม ด่านศุลกากรช่องสะงำ และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.2 สปป.1 กสป.
ร่วมวางแผนตรวจค้น สถานที่เป้าหมาย จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเชื่อว่า ภายในมีการลักลอบเก็บและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนมาก
ผลการตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่าสองหมื่นชิ้น มูลค่ารวม 10 ล้านบาท
สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557” และเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าหรือส่งออก ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560
โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ