ศิธา ลั่น ไทยสร้างไทย ไม่ขอจับมือกับแก๊ง 3 ป. ล้านเปอร์เซ็นต์ หากมีการชู ป. ใดก็ตามเป็นนายกฯ ชี้ยอมเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบยังดีเสียกว่า

19 มี.ค. 2566 – น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงความเห็นในงาน พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยหลังเลือกตั้ง 66 ณ ห้องประชุมริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

น.ต.ศิธา กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นด้วยว่า นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะเราได้เห็นตัวอย่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่เคยไปร่วมเวทีดีเบตแม้แต่เวทีเดียว ไม่เคยไปแสดงวิสัยทัศน์ และยังได้เสียงที่ไม่เหมาะสมจัดตั้งรัฐบาล แต่ได้ใช้กลไกพิเศษที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เพื่อให้ตนขึ้นมาเป็นนายกได้ โดยเฉพาะกลไก ส.ว. ที่เชื่อมโยงกับข้อที่ 3

ในส่วนข้อที่ 2 พรรคที่ได้ ส.ส. มากที่สุดควรได้รับสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อน ตนเห็นด้วยว่าโดยมารยาททางการเมืองแล้ว พรรคใดได้ ส.ส. เสียงข้างมากควรจะได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่สำหรับพรรคไทยสร้างไทยแล้ว หากท้ายที่สุดมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยชู 3 ป. ไม่ว่าจะ ป. ใด ป.หนึ่งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

ตนขอยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่า พรรคไทยสร้างไทยจะยอมเป็นฝ่ายค้าน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและจะไม่ร่วมรัฐบาลที่มีบุคคลเหล่านี้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

สำหรับข้อที่ 3 ในเรื่อง ส.ว. ต้องลงมติเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. และพรรคการเมืองต้องไม่นำเสียง ส.ว. เป็นข้อต่อรองทางการเมืองนั้น เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นว่าข้อเสนอนี้เป็นการแก้เกมส์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างมาเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารอย่างชัดเจน และตนหวังเป็นอย่างยิ่งกว่าข้อเสนอนี้จะถูกส่งต่อไป

พรรคไทยสร้างไทย เล็งเห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยเฉพาะตั้งแต่ที่มาของรัฐธรรมนูญที่ถูกบิดเบือน ไม่มีประชาชนคนไหนสามารถออกมารณรงค์ให้เห็นข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญเลย ใครออกมาก็ถูกจับ และตนยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยจะผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอยากจะให้ทุกคนช่วยกันสร้างกลไกที่จะป้องกันการรัฐประหาร และ นำผู้ที่ทำรัฐประหารมารับโทษเป็นกบฎให้ได้อย่างแท้จริง