ศาลไต้หวัน ตัดสินคุก 8 ปี แรงงานไทยใช้มีดบังคับหญิงมีออรัลเซ็กซ์
ศาลไต้หวัน ตัดสินจำคุกแรงงานไทยเป็นเวลา 8 ปี หลังใช้มีดทำครัวจี้หญิงผู้ดูแลหอพักเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ หลังกลับมาจากการดื่มสุรา เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมานี้
จากการสอบสวนของตำรวจ แรงงานชายไทย อายุในช่วง 30 ปี กลับมาหอพักในเขตต้าซี นครเถาหยวน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน หลังออกไปดื่มสุรา เมื่อราว 23.00 น. วันที่ 28 ก.ค. 2565 และเห็นหญิงผู้ดูแลหอพักที่กำลังจัดตู้เสื้อผ้าในห้องพักของเธอเพียงคนเดียว จึงเกิดความคิดตัณหา เดินเข้าไปในห้องพักของเธอ ล็อกกุญแจ และหยิบมีดทำครัวขึ้นมาจี้และผลักหญิงลงไปกับพื้น แม้ว่าเธอจะขัดขืนและต่อต้าน นอกจากนี้ จำเลยล้วงทรวงอกผ่านเสื้อผ้าและกางเกง และจับศีรษะเธอบังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์ทางปากจนแรงงานไทยสำเร็จความใคร่
หญิงผู้ดูแลหอพักรู้สึกอับอายจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และตำรวจเขตต้าซีรุดมาหอพักเพื่อจับกุมแรงงานไทยในอาการมึนเมา และยึดมีดทำครัวที่แรงงานไทยใช้ก่อเหตุในห้องพัก
ระหว่างการไต่สวนโดยผู้พิพากษาแห่งศาลชั้นต้นนครเถาหยวน แรงงานไทยให้การสารภาพความผิดอย่างตรงไปตรงมาในชั้นการสอบสวนของตำรวจ การสอบปากคำ และการไต่สวนของกระบวนการเตรียมพิจารณาคดีของศาล ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของหญิงผู้ดูแลหอพักในชั้นการสอบสวนของตำรวจและการสอบปากคำ
ขณะที่อัยการตรวจสอบหลักฐานของโจทก์ เช่น บันทึกหน้าจอการสนทนาของเพื่อนโจทก์ที่โจทก์เรียกมาหาหลังเกิดเหตุ รายงานการทำงานของตำรวจ ที่พักอาศัยของจำเลย บันทึกการค้นและยึด มีดทำครัวที่เป็นของกลาง และแผนผังจุดเกิดเหตุที่โจทก์เขียน และหลักฐานอื่นๆ สนับสนุน และชี้ว่า คำให้การของจำเลยสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและน่าเชื่อถือ จึงสั่งฟ้องจำเลย และยื่นต่อศาล ซึ่งพบว่า คำให้การของจำเลยสอดคล้องกับข้อเท็จจริง และหลักฐานมีความกระจ่าง
ผู้พิพากษาตัดสินว่า แรงงานชายไทยเห็นว่าหญิงผู้ดูแลหอพักอยู่ในห้องเพียงคนเดียว จำเลยจึงใช้มีดทำขู่เข็ญให้โจทก์มีเพศสัมพันธ์ทางปาก เพียงเพื่อสนองความต้องการทางเพศ ไม่เพียงเป็นการละเมิดเสรีภาพทางร่างกาย แต่ยังสร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจของโจทก์อย่างร้ายแรง ควรได้รับโทษสถานหนัก แม้พิจารณาลดโทษเนื่องจากจำเลยให้การสารภาพหลังก่อเหตุและแสดงความสำนึกผิด อีกทั้ง ระดับการศึกษาของจำเลยสูงสุดอยู่ที่ประถมศึกษาเท่านั้น แต่จำเลยต้องได้รับโทษจำคุก 8 ปีในข้อหาบังคับให้ผู้อื่นร่วมเพศด้วยอาวุธมีคม ขณะที่คดีนี้สามารถอุทธรณ์ได้
ที่มา: ไชน่าไทม์, ยูดีเอ็น, อีทีทูเดย์