ศาลอิหร่าน ตัดสินประหารชีวิตเป็นรายแรก ผู้เข้าร่วมประท้วงต้านรัฐ
วันที่ 14 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า สื่อทางการอิหร่านแจ้งข่าวว่า ศาลอิหร่าน พิพากษาประหารชีวิตผู้ถูกจับกุมฐานเข้าร่วมในการประท้วงที่ลุกลามไปทั่วประเทศ โดยศาลปฏิวัติในกรุงเตะหรานพบว่า จำเลยที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ จุดไฟเผาที่ทำการรัฐบาล และมีความผิดเป็นปฏิบัติต่อพระเจ้า
นอกจากนี้ ศาลอีกแห่งหนึ่งในอิหร่านพิพากษาจำคุก 5 คน ระหว่าง 5-10 ปี ในข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและความสงบเรียบร้อยต่อประชาชน
ขณะกลุ่มสิทธิมนุษยชนอิหร่าน (Iran Human Rights) เตือนว่า ทางการอิหร่านอาจวางแผนประหารชีวิตอย่างเร่งรีบ โดยอ้างรายงานทางการว่า มีผู้ถูกตั้งข้อหาที่สามารถได้รับโทษตายได้อย่างน้อย 20 คน
นายมาห์มูด อามีรี-โมกัดดัม ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษยชนอิหร่าน เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการเร่งด่วนและเตือนอิหร่านอย่างแข็งขันถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาในการประหารชีวิตกลุ่มผู้ประท้วง
ทั้งนี้ การประท้วงเกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนก่อน หลังการเสียชีวิตของหญิงสาวรายหนึ่งขณะถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวเนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายการสวมฮิญาบที่เคร่งครัด มีรายงานการประท้วง 140 เมืองทั่วประเทศ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนอิหร่านระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 326 ราย (ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 43 ราย และผู้หญิง 25 ราย) จากการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยกองกำลังรักษาความมั่นคง
ส่วนสำนักข่าวนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน (Human Rights Activists News Agency – HRANA) ที่อยู่นอกอิหร่านเช่นกัน รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 339 ราย และกลุ่มผู้ประท้วงอีก 15,300 คน ถูกควบคุมตัว และเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงเสียชีวิต 39 นาย
ด้านชนชั้นนำของอิหร่านวาดภาพการประท้วงว่าเป็น “จลาจล” ที่ศัตรูต่างชาติของประเทศยุยง ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายโกลัมฮุสเซน โมห์เซนี เอเจย์ หัวหน้าศาลยุติธรรม ประกาศว่า ควรระบุตัวผู้กระทำความผิดคนสำคัญให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพิพากษาโทษที่จะมีผลยับยั้งชั่งใจผู้อื่นได้
นายเอเจย์เตือนว่า ผู้ก่อจลาจลอาจถูกตั้งข้อหา “โมฮาเรเบห์” (เป็นศัตรูกับพระเจ้า), “เอฟซาด ฟิล-อาร์ซ” (ทุจริตบนโลก) และ “เบกี” (กบฏติดอาวุธ) ทั้งหมดนี้มีโทษประหารชีวิตในระบบกฎหมายตามชารีอะห์ของอิหร่าน
หัวหน้าศาลยุติธรรมกล่าวอีกว่า ผู้ครอบครองและใช้อาวุธหรืออาวุธปืน ก่อกวนความมั่นคงของชาติ หรือสังหารผู้ใด อาจได้รับ “กีซาซ” (การตอบโต้ในรูปแบบเดียวกัน) เป็นการตอบสนองต่อการเรียกร้องความยุติธรรมด้วยการลงโทษจากสมาชิกรัฐสภาอิหร่าน 272 คนจากทั้งหมด 290 คน
สื่อท้องถิ่นอ้างเจ้าหน้าที่ศาล มีผู้ถูกตั้งข้อหามากกว่า 2,000 คนจากการมีส่วนร่วมในจลาจลครั้งล่าสุด ในจำนวนนี้ 164 คนอยู่ในจังหวัดฮอร์มอซกัน ทางใต้ อีก 276 คนอยู่ในจังหวัดมาร์กาซี ตอนกลาง และ 316 คนอยู่ในจังหวัดอิสฟาฮันที่อยู่ใกล้เคียง