ศาลฏีกาสั่งกักขัง “เอ็มมี่ แม็กซิม” นางแบบดัง 2 เดือน ส่วนเลขาฯ กักขัง 40 วัน คดีฉ้อโกงแชร์
วันที่ 28 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญามีนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฉ้อโกงแชร์ ที่ ผู้เสียหาย ในคดีถูกฉ้อโกงแชร์ รวม 10 คนร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.อมลวรรณ หรือ เอ็มมี่ แม็กซิม อายุ 37 ปี นักแสดงและนางแบบชื่อดัง และ น.ส.จริยา เลขาฯส่วนตัว ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานฉ้อโกง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ค่าสินไหมทดแทน
กรณีที่พวกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพเป็นดาราและนางแบบใช้ชื่อการแสดงว่า เอ็มมี่ แม็กซิม และใช้ในโปรแกรมเฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม อีกหลายชื่อ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลสมาชิกกลุ่มผู้เล่นแชร์ “กลุ่มบ้านต่อเงินพารวย” ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยจำเลยที่ 1 โดยมีการประกาศชักชวนให้ประชาชนจำนวนมากมาร่วมกันเล่นแชร์ และได้รับความเสียหายมูลค่าหลายสิบล้านบาท คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง พวกโจทก์ยื่นอุทธรณ์
ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 รวม 10 ปี 8 เดือน ส่วน จำเลยที่ 2 จำคุก 84 เดือน 40 วัน และให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองได้รับการประกันตัวและยื่นฎีกา โดยเฉพาะจำเลยที่ 2 ไม่อาจอ้างว่า ทำตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 ได้มาปฏิเสธความผิดได้ รวมทั้งขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษได้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดจำเลยที่ 1 ฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังขึ้นบางส่วน ศาลจึงใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษจำเลยที่ 2
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า กฎหมายอาญา มาตรา 86 ในความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดดังกล่าวได้เช่นกัน จำเลยที่ 2 ไม่อาจอ้างว่าเป็นการกระทำตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 มาปฏิเสธความรับผิด ตามกฎหมายดังที่ฎีกาได้ ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาในทำนองขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการ ลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า เมื่อฟังว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำ ความผิดของจำเลยที่ 1 ฐานฉ้อโกง ต่างจากที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จึงเป็นเรื่องที่ศาลฎีกาจะใช้ดุลพินิจกำหนดโทษในความผิดดังกล่าวต่อจำเลยที่ 2 ให้เหมาะสมแก่ พฤติการณ์ในการกระทำความผิดต่อไป
ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จำคุก 3 เดือน จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบ มาตรา 86 จำคุก 2 เดือน ทางนำสืบของจำเลยทั้งสอง เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 40 วัน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โดยศาลอาญามีนบุรี ออกหมายกักขังเมื่อคดีถึงที่สุด ให้ผอ.สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี ให้กักขังนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. เป็นต้นไป