ศาลแขวงซัปโปโรมีคำพิพากษาเมื่อวันพุธ (17 มี.ค.) ว่าการห้ามไม่ให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ
คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2562 เมื่อคู่รัก 3 คู่ใน จ.ฮอกไกโด ยื่นคำร้องต่อศาลเรียกค่าสินไหมจากภาครัฐคนละ 1 ล้านเยน (282,000 บาท) โดยอ้างว่าได้รับความเสียหายทางจิตใจที่ภาครัฐไม่ยอมให้แต่งงาน
แม้ศาลมีคำพิพากษายกคำร้องที่โจทก์ทั้ง 6 คนนี้เรียกค่าสินไหม แต่น่าสนใจตรงที่ศาลระบุว่า การห้ามไม่ให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันผิดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่ากฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
คำพิพากษานี้น่าจะส่งผลถึงคดีอื่นๆ ที่คล้ายกันนี้ทั่วญี่ปุ่น
โจทก์ของคดีนี้ที่ใช้ชื่อสมมติว่า ทากาชิ กล่าวว่า “คำพิพากษาในวันนี้ยอมรับว่าพวกเรา (กลุ่มคนเพศหลากหลาย) มีตัวตนอยู่จริงๆ” และกล่าวอีกว่า “ฉันต้องการสังคมที่คนที่มีรสนิยมทางเพศไม่ตรงกับคนส่วนใหญ่มีความหวังและมีทางเลือกในอนาคตของตัวเอง”
ด้านทนายความของโจทก์ นายทะเกะฮะรุ คะโต กล่าวว่าตนไม่คิดมาก่อนว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยที่ชัดเจนขนาดนี้ และระบุว่าลูกความของตนกำลังพิจารณาว่าจะสู้คดีนี้ต่อด้วย
ที่ผ่านมา แม้คู่รักเพศเดียวกันในเทศบาลบางแห่งในญี่ปุ่นสามารถขอประกาศนียบัตรการเป็นคู่ชีวิตกันได้ แต่ก็ยังได้รับสิทธิต่างๆ น้อยกว่าคู้รักชายหญิงมาก ทั้งยังเผชิญกับการถูกเลือกปฏิบัติต่างๆ ในสังคม
ไม่ใช่แค่นั้นญี่ปุ่นก็ยังเป็นเพียงประเทศเดียวในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ (จี7) ที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน