“ศรีสุวรรณ” เตรียมแจง คณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อม ยื่นหลักฐานเพิ่ม ปม ตะเพิด ส.ส.รับแจกกล้วย 5 ก.ย.นี้ หลักฐานบ่งชี้ นักการเมือง มีพฤติการณ์รับเงินกันจริง
4 ก.ย. 65 – นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือเรียกให้ทางสมาคมฯ ไปพบในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.65 นี้ เวลา 13.30 น.
เพื่อให้ถ้อยคำประกอบคำร้อง กรณีที่ร้องเรียนให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส. ที่มีหลักฐานยืนยันว่ารับเงิน หรือทรัพย์สินจากบุคคลอื่น โดยการโอนบัญชีธนาคารผ่านระบบ internet banking ของธนาคารนับแสนบาทต่อเดือน
สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข้อมูลจากกรณีไลน์หลุด มีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่า มีรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นต์ชื่อรับเงินกันหลายคนจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฎชื่อ และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทาง ซึ่งเป็นชื่อของหัวหน้าพรรคการเมืองเล็ก รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมือง โดยจ่ายกันเป็นรายเดือนๆละ 100,000 บาท เป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หลักฐานดังกล่าวสามารถบ่งชี้ได้ว่า นักการเมือง มีพฤติการณ์รับเงินกันจริงแต่ไม่ปรากฏว่าเป็นการโอนรับกันเพื่อวัตถุประสงค์ใด หรือเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์บางอย่าง หรือยินยอม หรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการครอบงำหรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือไม่
นอกจากนั้นยังมีพิรุธว่า ส.ส.บางคน อ้างว่าเงินที่ได้รับโอนมานำไปใช้ในการลงพื้นที่ ดูแลชาวบ้าน จะถือเป็นรายได้หรือรายรับของพรรคการเมืองตาม ม.62(5) และหรือ (7) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 หรือไม่ และได้มีการประกาศให้ประชาชนทราบตาม ม.65 และหรือได้มีการปฏิบัติตาม ม.67 ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และหรือมีการจัดทำและลงรายการทางบัญชีรายรับ-รายจ่ายของพรรคการเมืองตาม ม.59 หรือไม่ ฯลฯ
หากไม่ใช่ อาจถือได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทันที ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.72 ประกอบ ม.126 ของกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเท่าใดก็ได้ขึ้นอยู่กับศาลกำหนด
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.28 ประกอบ ม.92(3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 มีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมือง ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
ดังนั้นในวันดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะได้นำพยานหลักฐานที่ไม่เคยปรากฎในสื่อมาก่อน ไปมอบให้ กกต.เพิ่มเติม เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่ออัปเปหิ เหล่า ส.ส.หรือหัวหน้าพรรคการเมืองตามหลักฐานดังกล่าวต่อไป