ศรีสุวรรณ ร้องกกต. สอบยุบเพื่อไทย ปม ทักษิณ ครอบงำนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 หลังออกมาพูดในกลุ่มCARE เสนอประเด็นในเชิงนโยบายเพื่ออธิบาย หรือแก้ต่างให้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.65 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นร้องเรียนต่อกกต. กรณีนายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู๊ดซัม ออกมาไลฟ์พูดคุยในกลุ่ม CARE ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาทของพรรคเพื่อไทย ซึ่งกรณีเช่นนี้อาจเข้าข่ายเป็นการชี้นำ ครอบงำกิจกรรมหรือนโยบายของพรรคการเมือง ตามมาตรา 28 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ พรรคการเมืองที่ปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกครอบงำ ชี้นำ อาจมีความผิดตาม มาตรา 92(3) ถึงขั้น กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นๆได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคเพื่อไทยแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปรับฐานเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรีเป็น 25,000 บาท ซึ่งว่าจะทำให้ได้ภายในปี 2570 ถือเป็นนโยบายที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเองพูดว่านโยบายแบบนี้จะหาเงินมาจากที่ไหน แต่ยังไม่ทันข้ามคืนนายทักษิณ ออกมาพูดในกลุ่มCARE เสนอประเด็นในเชิงนโยบายเพื่ออธิบาย หรือแก้ต่างเรื่องของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ซึ่งการที่นายทักษิณออกมาพูดนี้ ทางสมาคมฯ เข้าใจว่านายทักษิณกำลังจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น แท้จริงแล้วมีพื้นฐานความคิดมาจากนายทักษิณนั้นเอง และเชื่อมโยงมาจากพรรคไทยรักไทย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ฉะนั้นการที่นายทักษิณออกมาพูดมาแก้ต่างในเรื่อของประเด็นของพรรคเพื่อไทยนั้น ในพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 มาตรา28 และมาตรา29 มีกำหนดเป็นข้อห้ามไว้อย่างชัดเจน มาตรา 28 กำหนดไว้ว่าห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือดำเนินการตามบุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกพรรค ที่จะมาชี้นำ ควบคุม หรือครอบงำกิจกรรมของพรรคการเมืองนั้นไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ส่วนมาตรา 29 นั้นกำหนดว่า ห้ามบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองจะไปดำเนินการควบคุม ชี้นำ หรือครอบงำ กิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่นายทักษิณพยายามจะเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ทั้งที่พรรคเพื่อไทยมีภาพลักษณ์ที่ทำงานเพื่อประชาชนมาอย่างดีตลอด แต่การที่มีบุคคลอื่นอย่างนายทักษิณที่พยายามพูดคุยหรือตั้งประเด็นที่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยนั้นก็น่าเข้าข่ายเป็นบุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำ ครอบงำพรรคหรือไม่ เรื่องนี้เราจึงมาร้องต่อ กกต.เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยว่าพฤติการณ์และการกระทำอย่างนี้เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่ ถ้าเข้าข่ายนั้นก็จะเชื่อมโยงไปถึงมาตรา 92(3) ซึ่งกกต.มีอำนาจที่จะเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรคได้ ส่วนผู้ที่จะมีความผิดตามกฎหมายของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีโทษจำคุกไม่เกิด 10 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาท และตัดสิทธิทางการเมืองต่อไปด้วย
เมื่อถามว่ามีประโยคไหนที่ฟังแล้วมองว่านายทักษิณเข้าข่ายว่าครอบงำพรรค นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตนถอดเทปออกมาแล้วฟังมี 5 ประโยคที่เข้าข่าย แต่เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนตัดสิน ต้องเป็นกกต.เป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งตนก็เชื่อมั่นในหลักฐานของตัวเองทั้งคลิป วิดีโอที่นายทักษิณพูดนำเสนอ เชื่อว่าจะมีน้ำหนักอยู่พอสมควร