ศรัทธาแน่น เป๊ก-ธัญญ่า ร่วมสร้างเจดีย์ ส่องเลขรถหลวงปู่บัวเกตุเสียดายหมดเกลี้ยง

Home » ศรัทธาแน่น เป๊ก-ธัญญ่า ร่วมสร้างเจดีย์ ส่องเลขรถหลวงปู่บัวเกตุเสียดายหมดเกลี้ยง



แน่นพิธีเชียงใหม่ ศรัทธาแห่มาพิธีแน่น เป๊ก-ธัญญ่า ร่วมวางศิลาฤกษ์สร้างพระธาตุเจดีย์ และบรรจุวัตถุมงคลลงองค์เจดีย์ ส่องเลขรถหลวงปู่บัวเกตุ เสียดายหมดเกลี้ยง

ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุดอยวิสุทธิญาณ ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุเจดีย์ โดยมีหลวงปู่บัวเกตุ ปทุมสิโร วัดป่าปางกึ๊ดกิตติธรรม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มี พระเทพวชิราธิบดี เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง นำคณะสงฆ์ พร้อมด้วยคณะศรัทธาประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ขณะเดียวกันได้มีดาราชื่อดัง ธัญญ่า ธัญญาเรศ พร้อมด้วยสามี เป๊ก สัณณ์ชัย เองตระกูล นักธุรกิจชื่อดัง ได้เดินทางเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในคณะศรัทธาของพิธีครั้งนี้ด้วย ประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

วัดพระธาตุดอยวิสุทธิญาณ แห่งนี้ได้ออกโฉนดที่ดินอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พ.ย. 65 วันนี้จึงได้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเจดีย์ อุโบสถ ศาสนสถานต่างๆ บริเวณวัด โดยจุดเริ่มต้นด้วยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาประชาชนได้มาเริ่มบูรณะฟื้นฟูที่บริเวณพระธาตุเมื่อปี พ.ศ. 2557 ได้ขึ้นทะเบียนที่ดินวัดร้าง โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาตลอดกาล กระทั่งได้รับโฉนดที่ดินอย่างเป็นทางการในวันนี้ เนื้อที่ทั้งหมด 21 ไร่ 3.2 ตารางวา อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนได้พากันเล็งหมายเลขทะเบียนรถป้ายแดงที่ หลวงปู่บัวเกตุ เกจิชื่อดังได้นั่งมาซึ่งเป็นหมายเลขป้ายแดง “ก 7475 ชลบุรี” โดยมีประชาชนได้ถ่ายภาพไว้และหาผู้จำหน่ายลอตเตอรี่ภายในงานอย่างต่อเนื่อง แต่เสียดายที่เลขดังกล่าวได้หมดไปแล้ว

สำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุเจดีย์ พระพุทธองค์ตรัสอานิสงส์ของการสร้างวัดว่าเป็นยอดของสังฆทาน ในวิหารทานกถา พระพุทธองค์ทรงยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า การถวายวิหาร (วัด) ที่อยู่อาศัยกับพระภิกษุสงฆ์ เป็นสมุฏฐานก่อให้เกิดประโยชน์สุข ทั้งผู้รับและผู้ถวาย ซึ่งทรงแสดงอานิสงส์ไว้ว่า “ผู้ใดให้ที่พักอาศัย ผู้นั้นเชื่อว่าให้สิ่งทั้งปวง” (สังยุตตนิกาย สคาถวรรค) ผู้ให้ที่พักอาศัย ฯลฯ ย่อมมีบุญเจริญในกาลทุกเมื่อ ทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน เขาตั้งอยู่ในธรรม สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นผู้ไปสวรรค์ (วนโรปสูตร) ในวิหารทานกถา พระพุทธองค์ทรงยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า การถวายวิหาร(วัด)ที่อยู่อาศัยแก่ภิกษุสงฆ์ เป็นสมุฏฐานก่อให้เกิดประโยชน์สุข ทั้งผู้รับและผู้ถวาย ซึ่งทรงแสดง อานิสงส์ไว้ว่า เป็นยอดของสังฆทาน เป็นปัจจัยให้ประสบความเกษมศานต์ จนบรรลุถึงพระนิพพาน เป็นที่สุด โดยตรัสไว้ว่า “เสนาสนะที่อยู่อาศัย ย่อมบรรเทาความหนาว ความร้อน ป้องกัน เนื้อร้าย ป้องกันงู และยุงได้ ป้องกันฝนก็ได้ แม้ลมแดดกล้าที่ปรากฏขึ้น ก็บรรเทาได้” การถวายกุฎีวิหารที่อยู่อาศัยแก่พระสงฆ์เพื่อเร้นอยู่ ของผู้ต้องการความสงบ เพื่อความสุข เพื่อฌานการเพ่ง เพื่อวิปัสสนา การเห็นแจ้งพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นทาน อันเลิศ เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญา เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตน พึงสร้างกุฎีวิหาร ที่อยู่อาศัยอันรื่นรมย์ ถวายแด่พระสงฆ์ ผู้เป็นพหูสูตเถิด

การถวายข้าว น้ำ ผ้า และเสนาสนะ แก่พระสงฆ์ ทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยน้ำใจอันเลื่อมใส ในท่านผู้ปฏิบัติตรง ทั้งทางกาย และ ทางใจ ท่านย่อมแสดงธรรม อันเป็นเครื่องบรรเทาความทุกข์ทั้งมวล แก่บุคคลผู้เมื่อรู้ธรรมแล้วเป็นผู้ไม่มีกิเลส ปรินิพพานในโลกนี้ (เสนาสนขันธกะ พระวินัยปิฎก) และในพุทธวรรคที่1 ขุททกนิกาย อปทาน ภาค1 แสดง อดีตชาติ ของพระอรหันตสาวก ชั้นผู้ใหญ่ ว่าได้บำเพ็ญทานสร้างวัด และส่วนประกอบของวัด ด้วยศรัทธาเสื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วในชาติปัจจุบันท่านเหล่านั้นก็ได้รับอานิสงส์ผลบุญกุศลคล้ายคลึงกัน ว่าโดยสรุปก็คือ ไม่รู้จักทุคติได้โลกิยสมบัติอันน่าพึงพอใจ จนถึงชั้นสูงสุดและได้บรรลุคุณวิเศษต่างๆ อาทิ วิโมกข์ 8 ปฏิสัมภิทา 4 อภิญญา 6 อรหัตตผล สิ้นอาสวะกิเลสเป็นที่สุด คณะศรัทธาทุกท่านสามารถร่วมบุญได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ