กดดันพม่า-วันที่ 15 ก.ค.เว็บไซต์เรดิโอฟรีเอเชียรายงานว่า นายโรเบิร์ต เอฟ.โกเด็ก ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่จากรัฐบาลโจ ไบเดนกล่าวกับคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ตนจะกดดันไทยให้ลดการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากประเทศพม่า

ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ทหารปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี ที่นครย่างกุ้ง เมื่อปี 2564 (รอยเตอร์)

นายโกเด็กตอบคำถามของนายเอ็ด มาร์กีย์ สมาชิกวุฒิสภาเดโมแครตที่อ้างอิงถึงรายงานจากฮิวแมนไรต์วอตช์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศระบุว่า ประเทศไทยได้รับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติร้อยละ 80 จากรัฐบาลเมียนมา

นายโรเบิร์ต โกเดค ว่าที่ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่

“เรากำลังแสวงหาหนทางร่วมกันกับประเทศไทยที่จะเพิ่มความกดดันรัฐบาลพม่า โดยอยู่ระหว่างเจรจาเกี่ยวกับทางเลือกทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการดำเนินการที่เกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มากกว่านี้” นายโกเด็กกล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศของวุฒิสภา ซึ่งถามคำถามต่อนายโกเด็กและเอกอัครราชทูตที่ถูกเสนอชื่อคนอื่นๆที่จะประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกรวมถึงผู้แทนถาวรประจำอาเซียนอีก 3 คน

นายโกเด็กให้สัญญาต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่า ตนจะเน้นย้ำความพยายามที่จะทำงานร่วมกับไทยเพื่อกดดันพม่า “รัฐบาลพม่ายังคงกระทำการโหดร้ายป่าเถื่อนที่น่าตกใจต่อไป จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะยุติสิ่งนี้” นายโกเด็กกล่าว โดยเรียก “พม่า” ชื่อเก่าของประเทศเมียนมา และว่า “การกระทำที่น่าตกใจของรัฐบาลพม่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดในการหารือกับประเทศไทย”

จากแถลงการณ์ของฮิวแมนไรต์วอตช์เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมระบุว่า บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยหรือปตท.เป็นแหล่งรายได้แหล่งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลทหารเมียน ซึ่งมาจากการขายก๊าซให้ปตท.คิดเป็นปริมาณราวร้อยละ 80 ของก๊าซที่เมียนมาส่งออกจากแหล่งก๊าซยาดานาและซอติกา โดยพม่าสร้างรายได้จากก๊าซธรรมชาติได้ 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือราว 36,000 ล้านบาทต่อปี

“กระผมเรียกร้องอีกครั้งต่อสหรัฐอเมริกาให้ดำเนินการสิ่งที่พึงกระทำเหมือนที่สหภาพยุโรปหรืออียูดำเนินการและลงโทษทางเศรษฐกิจหรือแซงก์ชั่นอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเมียนมา”นายมากีย์ สว.เดโมแครตกล่าว

จากข้อมูลของสมาคมเพื่อการช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง เอ็นจีโอที่ตั้งอยู่ในไทยระบุว่า นับตั้งแต่ที่กองทัพเมียนมารัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ.2564 โค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลทหารจำคุกฝ่ายตรงข้ามและปฏิบัติการโจมตี ซึ่งสังหารพลเรือนกว่า 2,000 ชีวิต

ทั้งนี้ เมื่อที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองการแต่งตั้งนายโกเด็ก เสร็จสิ้น จึงจะมาทำหน้าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย

เผด็จการพม่าลั่นเลิกคุย-ลุยล้างกบฎอย่างเดียว

จับตา! รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าพบ บิ๊กตู่ วันอาทิตย์นี้ ถกหุ้นส่วนไทย-สหรัฐ