ช็อกยังไงกัน ลั่นไม่อยากแจ้งความคนดังในสังคม วุ่นไฮโซหญิงโชว์เช็ค100ล้าน แต่งนักธุรกิจพันล้านตระกูลดัง โชว์ทะเบียน เปิดภาพถูกพาขึ้นรถติดต่อไม่ได้ญาติพาไป ปัดฮุบสมบัติ
จากกรณีนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมครอบครัว เดินทางมาร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับหญิงรายหนึ่งที่ใช้กลอุบายหลอกลวงทรัพย์สิน เงินสด หุ้น คอนโดฯ ที่ดินอาคารพานิชย์ จากบิดา อายุ 75 ปี มูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาทนั้น
วันที่ 22 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบ ไฮโซหญิง ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า ตนรู้จักกับนายสุรชัยตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากนายสุรชัยต้องการกู้เงินไปใช้หนี้ทางธุรกิจประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้ว่านายสุรชัยจะเป็นคนมีเงิน มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ที่นายสุรชัยต้องการจะกู้เงินกับตน เป็นเพราะนายสุรชัยได้แบ่งทรัพย์สินมอบให้กับบุตรไปหมดแล้ว จึงไม่อยากที่จะรบกวนบุตร
แต่ตนไม่สามามารถให้จำนองได้ เพราะทรัพย์สินดังกล่าวติดปัญหากับธนาคาร จากนั้นมีการแวะเวียนมาหาตนที่บ้านอยู่บ่อยๆ กว่าจะกลับก็มืดค่ำ วันหนึ่งได้ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านตน เห็นข้อความทางไลน์ครอบครัวของนายสุรชัยมีอคติกับตน คิดว่าตนหลอกให้ฝ่ายชายรัก ตนจึงพยายามตีตัวออกห่างจากนายสุรชัย สุดท้ายนายสุรชัยได้เก็บเสื้อผ้ามาค้างอยู่ที่บ้านของตน
เดือนมิถุนายนได้ขอตนหมั้นในวันที่ 2 มิถุนายน ตนกับนายสุรชัยจึงได้เดินทางไปทำพิธีหมั้นที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยเจ้าคุณธงชัยเป็นประธานในพิธี มีแขกเพียง 10 คน นายสุรชัยให้เหตุผลในการหมั้นว่าตนเป็นคนดี ตนรู้สึกว่าตนอายุมากแล้ว 65 ปี ส่วนนายสุรชัยก็อายุ 75 ปี ต่างฝ่ายต่างเป็นม่าย จึงอยากใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยกัน ไม่อยากเสียเวลาที่เหลือไปเปล่าๆ โดยในวันหมั้นนายสุรชัยก็ได้หมอบแหวน และเช็คเงินสด 100 ล้านบาทให้แก่ตนเป็นของหมั้น
โดยหญิงไฮโซ ยังอ้างด้วยว่า 26 กรกฎาคม นายสุรชัยได้ขายหุ้นให้กับลูกชายของตน เนื่องจากระหว่างที่อีกฝ่ายย้ายมาอยู่กับตน หุ้นละ 5 บาท อีกฝ่ายได้ยืมเงินของตนกับลูกชายไปลงทุน นอกจากนี้ตนยังได้รับซื้อคอนโดมิเนียมไว้ กับที่ดินขนาด 100 ตร.ว. ที่ดินหวังเอาไว้สร้างเรือนหอ รวมมูลค่าทรัพย์แล้วไม่ถึง 5 ล้านบาท
พร้อมทั้งอ้างด้วยว่า วันที่ 27 กรกฎาคม นายสุรชัยได้ขอตนแต่งงาน ตนได้ไปจดทะเบียนหย่ากับสามี ซึ่งแยกกันอยู่มานานกว่า 10 ปีที่ จ.กำแพงเพชร จากนั้นนายสุรชัยก็ได้ขอให้ตนจดทะเบียนสมรส
โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ครอบครัวของนายสุรชัยได้เดินทางไปร้องและให้ข่าวที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากในวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ทางครอบครัวของนายสุรชัยได้เคยเดินทางไปร้องกองบังคับการปราบปรามแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในวันที่ 9 กันยายน นายสุรชัยก็ได้เดินทางไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ไฮโซหญิงยังอ้างด้วยว่า ตนตกใจเนื่องจากครอบครัวของนายสุรชัยรับรู้เรื่องตนมาโดยตลอด ทรัพย์สินที่อ้างว่าตนรับมามูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ก็ไม่มีอยู่จริง ขณะนี้นายสุรชัยหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่กำลังออกกำลังกาย ซึ่งนายสุรชัยได้เคยกำชับตนไว้ว่าหากหายตัวไปหมายถึงถูกอุ้ม ซึ่งตนมีหลักฐาน คลิปวงจรปิด 2 ต.ค. 65 เวลา 09.40 น. บริเวณหน้าบ้านย่านลาดพร้าวที่นางลินดาอาศัยอยู่กับนายสุรชัยหลังจากที่จดทะเบียนสมรส รถตู้สีขาวขับเข้ามาจอดภายในบ้านพัก จากนั้นมีญาติพาตัวนายสุรชัยขึ้นรถตู้ แม่บ้านที่ดูแลบ้านได้เดินตามพร้อมถามว่า “ไปไหน” โดยขณะนั้นนายสุรชัยกำลังยืนออกกำลังกายอยู่ตนไม่ทราบว่าทำไมครอบครัวของนายสุรชัยจึงทำแบบนี้ เพราะทรัพย์สินต่างๆ ของนายสุรชัยก็ถูกโอนเป็นของบุตรเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือติดตัวไว้เพียงเล็กน้อย
ขณะนี้ตนในฐานะคู่สมรสได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้แล้วว่านายสุรชัยได้หายตัวไป โดยในส่วนอื่นๆ ตนไม่อยากดำเนินการทางกฎหมาย เพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหายกับครอบครัวของนายสุรชัยเอง เพราะทุกท่านเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม เรื่องของครอบครัวควรพูดคุยกันในครอบครัว หากไม่หยุด ตนก็จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย