วุฒิสภาเห็นชอบผ่าน “นารี ตัณฑเสถียร” ขึ้นอัยการสูงสุดหญิงคนแรกของประเทศ ไร้เสียงคัดค้าน เผย ประวัติการศึกษา-ผลงานโดดเด่นที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2565 ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 โดยมีการเสนอชื่อ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด
โดยผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า ให้ความเห็นชอบ 205 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบ ไม่มี และไม่ออกเสียง 7 เสียง จากสมาชิกวุฒิสภาที่มาแสดงตนทั้งสิ้น 212 คน
น.ส.นารี จึงได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมากเป็นเอกฉันท์จากที่ประชุมวุฒิสภา เป็นผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
น.ส.นารี ว่าที่อัยการสูงสุด คนที่ 17 จะเป็นอัยการสูงสุดผู้หญิงคนแรกขององค์กรอัยการ สําเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทด้านกฎหมายเปรียบเทียบ Howard University, Wash, D.C. U.S.A.
ปริญญาโทด้านกฎหมายระหว่างประเทศ The American University Wash, D.C. U.S.A. และปริญญาโทด้านกฎหมายการให้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ Vrije University of Brussel, Belgium (ทุนรัฐบาลเบลเยียม)
สำหรับประวัติการทำงานของ น.ส.นารี เริ่มทำงานปี พ.ศ. 2528 ในสำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานภาครัฐ และเจรจา ตรวจร่างสัญญาภาครัฐ
พ.ศ. 2553 เป็นอาจารย์ (พิเศษ) คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2554 เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายตระกูล วินิจนัยภาค) เลขานุการอัยการสูงสุด และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่น อาทิ คดีเพชรซาอุฯ คดีฆ่าเจ้าหน้าที่การทูตซาอุฯ สัญญาเกี่ยวกับพลังงาน สัญญาเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สัญญาร่วมลงทุน สัญญาการจัดหาวัคซีนและ ยารักษาโรคระบาดโควิด-19 กรรมการเนติบัณฑิตยสภา และได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป 2 สมัย