ฟ็อกซ์บิซเนส และ บลูมเบิร์ก รายงานวันที่ 5 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ว่า วีซ่า และ มาสเตอร์การ์ด บริษัทผู้ให้บริการการเงินชั้นนำของโลก ระงับการดำเนินงานในรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียส่งกองกำลังทหารรุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.
วีซ่าระบุในแถลงการณ์มีผลทันที วีซ่าจะทำงานร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรในรัสเซียเพื่อยุติการทำธุรกรรมวีซ่าทั้งหมดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ธุรกรรมทั้งหมดที่เริ่มด้วยบัตรวีซ่าที่ออกในรัสเซียจะใช้งานนอกประเทศไม่ได้อีกต่อไป และบัตรวีซ่าที่ออกโดยสถาบันการเงินนอกประเทศรัสเซียจะใช้งานภายในสหพันธรัฐรัสเซียไม่ได้อีกต่อไป
วีซ่าระบุว่า ผู้ใช้งานในรัสเซียที่มีบัตรวีซ่าที่ออกในรัสเซียยังสามารถชำระค่าสินค้าและบริการในรัสเซียได้ แต่บริษัทจะไม่ดำเนินธุรกรรม ซึ่งจะไปขึ้นกับระบบบัตรชำระเงินแห่งชาติของรัสเซีย (NSPK) แทน
อัล เคลลี ประธานและซีอีโอวีซ่า ระบุว่า บริษัทรู้สึกจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าวหลังการรุกรานยูเครนโดยปราศจากเหตุผลของรัสเซีย และเหตุการณ์ดังกล่าวที่ไม่สามารถยอมรับได้ซึ่งเราเห็น
“เราเสียใจกับผลกระทบที่จะเกิดต่อเพื่อนร่วมงานที่มีค่าของเรา และต่อลูกค้า คู่ค้า ผู้ค้า และผู้ถือบัตรที่เราบริการในรัสเซีย สงครามครั้งนี้และการคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพอย่างต่อเนื่องทำให้เราตอบสนองตามค่านิยมของเรา” เคลลีระบุ
ส่วนมาสเตอร์การ์ดระบุใน แถลงการณ์ ว่า ตัดสินใจระงับบริการในรัสเซีย เนื่องจากลักษณะของความขัดแย้งในปัจจุบันที่ไม่เคยมีมาก่อน การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ หลังหารือกับลูกค้า พันธมิตร และรัฐบาลต่างๆ แล้ว
มาสเตอร์ระบุว่า บัตรมาสเตอร์การ์ดที่ออกโดยธนาคารรัสเซียจะไม่รองรับเครือข่ายมาสเตอร์การ์ดอีกต่อไป และบัตรที่ออกนอกรัสเซียจะใช้งานที่ร้านค้าหรือเอทีเอ็มรัสเซียไม่ได้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ หยุดการดำเนินการยุติธุรกิจทั้งหมดในรัสเซีย ระหว่างการสนทนาทางวิดีโอกับฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา
แบรด เชอร์แมน สมาชิกพรรคเดโมแครตแห่งแคลิฟอร์เนีย สมาชิกของคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์หลังการพูดคุย และแสดงความเห็นด้วยกับผู้นำยูเครน
วันเดียวกัน รอยเตอร์ รายงานว่า แดน ชุลมัน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เพย์พาล โฮลดิงส์ บริษัทผู้ให้บริการชำระเงิน ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทจะระงับบริการชำระเงิน ภายใต้ “สถานการณ์ปัจจุบัน”และเสริมว่า เขาเสริมว่า บริษัทยืนหยัดกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการรุกรานทางทหารที่รุนแรงของรัสเซียในยูเครน
โฆษกของบริษัทกล่าวว่า เพย์พาลจะให้การสนับสนุนบริการถอนเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ความมั่นใจว่า ยอดคงเหลือในบัญชีจะกระจายไปตามกฎหมายและระเบียบที่บังคับใช้”
ก่อนหน้านี้ เพย์พาล ซึ่งอนุญาตเฉพาะการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนโดยผู้ใช้ในรัสเซีย หยุดรับผู้ใช้งานใหม่ในรัสเซียตั้งแต่วันพุธที่ 2 มี.ค.
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนเรียกร้องให้เพย์พาลออกจากรัสเซีย และช่วยเหลือยูเครนในการระดมทุน ขณะที่เพย์พาลระบุเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มี.ค. ว่า “ตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้น เพย์พาลช่วยระดมเงินกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับองค์กรการกุศลที่สนับสนุนความพยายามรับมือในยูเครน ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็นในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้”
การระงับ PayPal ในรัสเซียมีผลกระทบกับแอปพลิเคชั่นโอนเงิน Xoom ด้วย ขณะที่ Wise และ Remitly ผู้ให้บริการชำระเงินที่เป็นคู่แข่งกับเพย์พาล ระงับบริการบางส่วนในรัสเซียไปแล้ว
ทั้งนี้ บรรดาบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งกล่าวว่า กำลังตัดสัมพันธ์หรือพยายามตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึง บีพี, เชลล์, เจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) และเมอส์ก (MAERSK) ท่ามกลางรัสเซียที่ยังดำเนินการโจมตีทางอากาศ ยิงระเบิด และปฏิบัติการทางทหารในยูเครนอย่างต่อเนื่อง ในการรุกรานที่ส่งผลต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทำให้ชาวยูเครนพลัดถิ่นกว่า 1 ล้านคน
ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ถึงเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 4 มี.ค. สหประชาชาติบันทึกยอดผู้บาดเจ็บและล้มตาย 1,085 รายในยูเครน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 351 รายและบาดเจ็บ 707 ราย ในบรรดาผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 71 คน ผู้หญิง 41 ราย เด็กชาย 8 ราย และเด็กหญิง 4 ราย รวมถึงผู้ใหญ่ 217 ราย และเด็ก 10 รายที่ไม่สามารถระบุเพศได้ทันที ตามรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) แต่เสริมว่า เชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก