“วิโรจน์” สะอิดสะเอียน รีวิวซีรีส์ “รักนี้เท่าไหร่ ให้เขียนมา” เจาะ 5 ประเด็นเด็ด สปอยโทษสูงสุด “ประหาร” พร้อมเลือกเพลงประกอบให้เสร็จสับ
วันที่ 18 มิถุนายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รีวิวซีรีส์ “รักนี้เท่าไหร่ ให้เขียนมา”
จากกรณีที่มีการกล่าวหาว่า #ผู้การชลบุรี และพวกร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกรับสินบน และประพฤติมิชอบ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดอาญา ในหลายมาตรา อาทิ มาตรา 143 มาตรา 149 มาตรา 150 มาตรา 157 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึง “ประหารชีวิต”
โดยกรณีนี้ ถ้าเปรียบเป็นซีรีส์ ก็คงเป็นซีรีส์ประเภท “รักซ้อนหลายเส้า” ที่มาพร้อมกับประโยคบอกรักที่แสนสะอิดสะเอียนว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”
ข้อเท็จจริงเป็นประการใด คงต้องสืบสวนสอบสวนให้กระจ่าง ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็ต้องสาวให้ถึงต้นตอ และกวาดล้างทั้งเครือข่ายให้ได้
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อ ในซีรีส์เรื่องนี้ น่าจะมีอยู่ 5 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. ความรักระหว่างเป้ และผู้การ คงไม่ใช่รักแรก และไม่น่าจะใช่รักครั้งสุดท้ายแน่ๆ คงต้องสืบสวนดูว่า ระหว่างเป้ กับผู้การ นั้นเคยมีฉากเลิฟซีนกันมาแล้วกี่ฉาก ลำพังแค่ฉากล่าสุด ทุนสร้างก็ปาเข้าไป 140 ล้านบาทแล้ว ถ้านับฉากก่อนๆ เข้ามาด้วย ทุนสร้างน่าจะมากกว่านี้หลายเท่าตัว
2. นอกจากเป้แล้ว ยังมีใครแอบปันใจมอบความรักให้กับผู้การอีกบ้าง เพราะดูแล้วคนที่แอบรักผู้การ ไม่น่าจะมีเป้แค่คนเดียว
3. นอกจากผู้การแล้ว เป้ยังแอบคบซ้อน ไปแอบรักกับผู้การคนอื่น หรือข้าราชการระดับสูงคนอื่น อีกหรือไม่
4. ผู้การเอง ก็อาจจะมีคนที่รักอยู่แล้วหรือเปล่ส ก็ต้องตามดูต่อว่า ทุกๆ ครั้งที่ผู้การได้รับความรักจากเป้ ผู้การต้องส่งต่อความรักนั้น ไปให้คนที่ใหญ่กว่าผู้การหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ก็เคยมีคนเห็นผู้การเอาดอกไม้ เอากระเช้า ไปแอบมอบให้ใครบางคนอยู่เหมือนกัน
5. ตามพล็อตเรื่อง สุดท้ายมักจะเฉลยว่า คนที่แอบรักผู้การได้ นั้นไม่ใช่คนธรรมดา บางทีเป้อาจจะมีความสัมพันธ์กับมาเฟียข้ามชาติ หรือทุนจีนสีเทา ก็ได้ ใครจะไปรู้
6. ปกติแล้ว กว่าจะรักกันได้ มันต้องมีเพื่อนพระเอก และเพื่อนนางเอก คอยเป็นกองเชียร์ คอยสนับสนุน ก็คงต้องสืบสวนขยายผลต่อ เพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่า กองเชียร์ที่เป็นสักขีพยานในความรักของเป้ และผู้การ ทั้งหมดมีใครบ้าง
ซีรีส์เรื่องนี้ เป็นซีรีส์ ที่น่าติดตามมาก เผลอๆ อาจจะมีภาค 2 ภาค 3 ออกมาในไม่ช้านี้ พระเอกอาจจะเป็นผู้การที่จังหวัดอื่น หรืออาจจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นอธิบดีบ้าง เป็นปลัดบ้าง เป็นนายพลบ้าง ก็ได้ ต้องคอยติดตามดูครับ
สุดท้ายนี้ จากปัญหาคอร์รัปชั่นที่ผุดกันขึ้นมาเต็มไปหมด ณ ขณะนี้ มันสะท้อนถึงความล้มเหลวของการจัดการกับปัญหาคอร์รัปชั่นของรัฐบาลที่ผ่านมา
หลายคนอาจสงสัยว่า ทั้งๆ ที่เผด็จการก็อ้างอยู่เสมอว่า ที่ต้องทำรัฐประหาร ก็เพราะปัญหาคอร์รัปชั่น แล้วก็มักจะคุยโวว่าจะมาปราบคอร์รัปชั่นให้หมด แล้วทำไมคอร์รัปชั่นถึงได้มีเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดอย่างนี้
ซึ่งวันนี้ประชาชนตาสว่างกันหมดแล้วว่า “การปราบคอร์รัปชั่น” ที่เผด็จการอ้าง แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพียงการอ้างเพื่อกำจัดคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของตนเท่านั้น จากนั้นก็ใช้ระบบตั๋ว ระบบเส้นสาย ดึงคนในเครือข่ายของตนเข้ามายึดอำนาจ สร้างเครือข่ายอุปถัมภ์ในการกินรวบทรัพยากรของประเทศ
ยิ่งเผด็จการสืบทอดอำนาจนานเท่าไหร่ เครือข่ายอุปถัมภ์ เด็กเส้น เด็กฝาก ก็ยิ่งฝังรากลึก นั่งกินตำแหน่งใหญ่ๆ ในระบบราชการอยู่เต็มไปหมด จะปราบปรามจับกุม ก็ยาก ตำรวจที่ตงฉินพอสืบไปสืบมา พอเจอตอก็ต้องเลิก เจอเป็นคนของนายเข้าไปเกี่ยวก็ต้องหยุด สภาพแบบนี้ยิ่งทำให้การคอร์รัปชั่นเบ่งบาน ยิ่งมีทุนจีนสีเทา มาร่วมทุนกับทุนไทยสีกากี และทุนไทยลายพรางด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เครือข่ายคอร์รัปชั่น แข็งแรง และเส้นใหญ่มาก
ใหญ่ไม่ใหญ่ ก็คิดดูสิครับ ขนาด พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ยังต้องขอลี้ภัยไปต่างประเทศ
ไม่แปลกใจที่ปัจจุบันประชาชน จะตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลเผด็จการ ที่มีทั้งอาวุธสงคราม มีรถถัง กล้าที่จะก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากประชาชน คนไหนคิดต่าง ก็เรียกมาปรับทัศนคติ มีมาตรา 44 มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีอำนาจล้นฟ้า จะออกคำสั่งอะไร ก็ไม่ผิดกฎหมาย แล้วทำไมมาเฟียจีนสีเทา แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ขบวนการค้ามนุษย์ พ่อค้ายาบ้า นายบ่อน แก็งค์พนันออนไลน์ ถึงไม่เกรงกลัวเลย ทำไมรัฐบาลเผด็จการถึงไม่คิดที่จะจับกุมเอาคนพวกนี้ไปปรับทัศนคติบ้าง หรือว่ารัฐบาลมีทัศนคติที่ตรงกับขบวนการเหล่านี้ นี่คือคำถามที่กำลังผุดขึ้นในหัวของประชาชน ทั่วประเทศ
รออีกสักนิดครับ ซีรีส์รักที่สะอิดสะเอียนเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีกี่ตอน มีกี่ภาค มันกำลังจะจบลงในไม่ช้านี้ แล้วซีรีส์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวัง และความสดใส กำลังจะได้ฤกษ์ออนแอร์ในไม่ช้านี้
Note: เพลงประกอบละคร ถ้าเลือกได้ จะใช้เพลงวัดปะหล่ะ? “…เขารักเธอเท่าไร ฉันรักเธอมากกว่า …”