กลายมาเป็นประเด็น หลังจากที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การรักษาตัวของนายทักษิณ ว่า เป็นไปตามกระบวนการ และระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่ ส่วนหลังครบกำหนด 120 วันนายทักษิณ จะได้กลับเข้าเรือนจำหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง
อีกทั้ง ยังบอกอีกว่า หากคิดทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง ประเทศก็จะไม่สงบสุข อยากให้หลีกหนีจากความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ส่วนเรื่อง อาการป่วยของนายทักษิณอยากให้ใจกว้าง และเชื่อมั่นกระบวนการของแพทย์ ว่าทีมแพทย์ต้องวินิจฉัยอย่างดีที่สุดแล้ว
ล่าสุด วันที่ 22 ธันวาคม 2566 ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ได้มีการโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้เช่นกันว่า ผมอยากจะย้ำกับคุณภูมิธรรมว่า ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้เป็นการเมืองเลย แต่ขอให้คุณภูมิธรรม เปิดเผยรายละเอียดของระเบียบออกมาให้ชัดเจน ไม่ควรผลักไปที่ดุลพินิจแพทย์ เพื่อให้ผู้ต้องขังคนอื่นๆ ได้ใช้สิทธิแบบคุณทักษิณบ้าง
- ป้าแต๋น แรงไม่แผ่ว! ไลฟ์สดฝากถึง เปรตที่เข้ามาดู ระวัง เจอบาทา FC
- รักชนก ร่ายยาว! วันพิพากษา ยกคดี ‘ลุงพล’ เรียกร้องสิทธิประกันคดี 112
- วันชัย ชี้! ‘ทักษิณ’ ขังนอกเรือนจำได้ ลั่น ประเทศไหนๆ ก็ทำกัน
เช่น หากป่วยด้วยโรค ที่ รพ.ราชทัณฑ์ ไม่มีแพทย์เฉพาะทางที่จะรักษาโรคนั้น หรือไม่มีเครื่องมือที่มีศักยภาพในการรักษา ก็จะได้รับการส่งตัวไปรักษา ที่สถานพยาบาลอื่นที่มีศักยภาพสูงกว่าทันที เป็นต้น
ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ระบุชัดว่า การส่งตัวไปรักษาภายนอก จะนอนพักที่ห้องพิเศษไม่ได้ หากยืนยันว่า ห้องชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ใช่ห้องพิเศษ ก็ควรชี้แจง ว่าหากผู้ต้องขังคนอื่น ต้องการรักษาตัวที่ชั้น 14 บ้าง จะต้องกรอกแบบฟอร์มไหน ใช้หลักเกณฑ์ใด ไม่ควรโยนทุกอย่างไปที่ดุลพินิจของแพทย์
กรณีระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำ ก็เช่นกัน ระเบียบนี้ให้อำนาจไปที่คณะทำงานที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือคนที่อธิบดีแต่งตั้ง รวมทั้งให้อำนาจให้อธิบดีเป็นผู้ชี้ขาด โดยปราศจากการตรวจสอบ ถ่วงดุลที่เหมาะสม
ระเบียบเช่นนี้ เอื้อให้ผู้ต้องขังที่ร่ำรวย หรือผู้ต้องขังที่มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง สามารถเสนอผลประโยชน์ หรือออกใบสั่งให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ผู้ต้องขังที่ร่ำรวย หรือมีแบ๊ค ให้ได้รับอภิสิทธิ์ เหนือนักโทษคนอื่นได้