กรณีกลุ่มทะลุวัง ร่วมจัดกิจกรรมทำโพลเกี่ยวกับขบวนเสด็จฯ บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ต่อมา น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณีบีบแตรใส่ขบวนเสด็จ ระหว่างนั้นกลุ่มศูนย์รวมประชาชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) ที่ร่วมสังเกตการณ์แสดงความไม่พอใจ และเกิดการปะทะกัน ล่าสุดมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่ม ศปปส. โดยน.ส.ทานตะวัน ระบุว่าฝ่ายตนถูกทำร้ายร่างกายก่อน
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตำหนิการกระทำของกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง โดยระบุว่า
กรณีการที่มีกลุ่มบุคคล อ้างความจงรักภักดี แล้วไปทำร้ายผู้อื่นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS การใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้อื่น โดยอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำเพราะจงรักภักดี เป็นพฤติกรรมที่อันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมาก
หากรัฐปล่อยให้กลุ่มคนกักขฬะป่าเถื่อนเหล่านี้ลอยนวล มีอำนาจบาตรใหญ่ สามารถอ้างสถาบันพระมหากษัตตริย์ ไปทำร้ายคนที่คิดต่างอย่างไรก็ได้ โดยที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ หรือสมยอมเอาผิดเพียงลหุโทษ พฤติกรรมที่ลุแก่อำนาจของกลุ่มคนเหล่านี้ ระยะสั้นอาจดูเหมือนความคลั่งไคล้ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ในระยะยาว มีแต่จะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ ทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นพวกนิยมความป่าเถื่อน และจะส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด
ผมจึงมีความเห็นว่า รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างจริงจัง ไม่ให้เหิมเกริมกล้านำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้คนตามใจชอบ ได้อีกต่อไป