อาร์เจนตินา เอาชนะ โปแลนด์ 2-0 ขยับขึ้นไปคว้าแชมป์กลุ่มซี ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ขณะที่ โปแลนด์ แม้จะแพ้ แต่ยังดีพอเดินตามเข้าสู่รอบต่อไปด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ประตูได้เสียดีกว่า เม็กซิโก
เกมนี้ อาร์เจนตินา จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนโปแลนด์ ขอแค่ผลเสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบ ทำให้รูปเกมออกมาอย่างที่เห็นคือ โปแลนด์ ลงไปตั้งรับลึกเพื่อเน้นเกมรับ และความแน่นอนเป็นหลัก ส่วน อาร์เจนตินา ที่ต้องชนะสถานเดียว ทั้งยังไม่โดนเกมเพรสซิ่งบีบตั้งแต่แดนบน เหมือน 2 นัดแรกที่ผ่านมา ทำให้เล่นสบายขึ้น และได้ขึงเกมรุกเข้าใส่โปแลนด์ ตามสไตล์ ที่ถนัด
จริงๆแล้ว อาร์เจนตินา ควรได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก ทั้้งการเข้าทำที่มากถึง 14 ครั้ง เข้ากรอบถึง 9 ครั้ง รวมถึงจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี แต่ทั้งหมดก็ถูกปฏิเสธโดย นายทวารอย่าง วอยเช็ก เชสนี ที่ผีเข้าโชว์ฟอร์มเซฟอุตลุด
เพิ่มเติมเล็กน้อยเกมรุกของอาร์เจนตินา ทางซ้ายนั้นได้โอกาสทะลุหลุดเข้าไปหลายครั้ง แต่ในจังหวะสุดท้าย แบ๊กซ้ายอย่าง มาร์กอส อกุนญา มักจะตัดสินใจไม่ดีจนทำให้ทีมเสียโอกาส
ขณะที่ตัวกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี เมื่อเห็นว่าทางฝั่งซ้ายนั้นมีพื้นที่เจาะโปแลนด์ได้บ่อยครั้ง จึงโยกเอา อังเคล ดิมาเรีย “ลูกรัก” มาเล่นทางฝั่งนี้เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเดิม
ใช่แล้ว! ขออนุญาตใช้คำว่า “ลูกรัก” เพราะ ดิมาเรีย ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเลย ทั้งในลีกกับ ยูเวนตุส ที่ลงสนามไป 10 นัด เพิ่งยิงได้เพียง 1 ประตู ขณะที่ฟุตบอลโลก 2 นัดที่ผ่านมา ก็ไม่สามารถสร้างเกมกดดันคู่แข่งได้เลย แต่ยังได้เป็นตัวเลือกอันดับแรกแทนนักเตะที่ฟอร์มดีอย่าง เปาโล ดิบาลา และอังเคล คอเรียอา
อย่างไรก็ตาม อาร์เจนตินา มาได้ประตูที่ต้องการตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง จาก อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ ทำให้เกมดูผ่อนคลายขึ้น ขณะที่ โปแลนด์ แม้จะเสียประตู ก็ยังไม่เร่งขึ้นเกมมากนัก เพราะก็เป็นกังวลกับผลประตูได้เสีย รวมถึงใบเหลืองใบแดง ที่จะมีผลต่อการเข้ารอบ เมื่อวัดกับเม็กซิโก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม แม้ ฮูเลียน อัลบาเรซ จะยิงหนีเป็น 2-0 โปแลนด์ ก็ยังนิ่งเฉย ไม่เร่งเกมมากนัก ขนาดเข้าแย่งบอลก็ยังหลีกเลี่ยงการปะทะที่หนักไปด้วย
เมื่อเป็นแบบนี้รูปเกมก็เข้าทาง อาร์เจนตินา อย่างสมบูรณ์ เพราะสามารถผ่อนเกม พลางหาโอกาสดีๆลุ้นประตูเพิ่ม แบบไม่ต้องรีบร้อน หรือเล่นอะไรที่เสี่ยง เพราะต่อให้เล่นแบบนี้ โปแลนด์ ก็ไม่คิดจะเข้ามาบีบแย่งบอลเพื่อเอาประตูเพิ่มอยู่แล้ว ก่อนจะจบเกมไปแบบ ง่วงๆในช่วงท้าย