วิเคราะห์การเมือง – แนวโน้ม ปรับครม. ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ บนทาง สองแพร่ง

Home » วิเคราะห์การเมือง – แนวโน้ม ปรับครม. ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ บนทาง สองแพร่ง


วิเคราะห์การเมือง – แนวโน้ม ปรับครม. ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ บนทาง สองแพร่ง

เสียงเรียกร้องให้ “ปรับครม.” ที่ดังจากพรรคพลังประชารัฐ “ทรงความหมาย”

เป็นความหมายที่ต้องการให้เป็นความจริงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความต้องการโดยพื้นฐานซึ่งดังมาอย่างต่อเนื่องจากพรรคเศรษฐกิจไทย

นี่ย่อมเป็นทั้ง “โจทย์” และ “โจทก์” ในทางการเมือง

เป็นโจทย์ในทางการเมืองที่เสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นโจทก์ที่ได้รับผลสะเทือนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ความหมาย” จึงเกิดขึ้นโดย “อัตโนมัติ”

น่าสนใจก็ตรงที่เป็นความหมายซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เองก็รับรู้มาต่อเนื่อง

เพราะไม่เพียงแต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เท่านั้นที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขณะเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

หากแม้กระทั่ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานขณะเป็นเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ

ถูกปลดโดยฝีมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ความหมาย” ของการปรับครม.จึงเป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

อ่อนไหวเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในสถานะอันเป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างคู่ของความขัดแย้ง 2 ฝ่ายในทางการเมือง

นั่นก็เป็น “น้อง” นั่นก็เป็น “ลูกน้อง”

เมื่อเข้าดำรงอยู่ในสถานะแห่งรักษาการ “นายกรัฐมนตรี” บรรดาลูกน้องจากภายในพรรคพลังประชารัฐและจากพรรคเศรษฐกิจไทยก็ “ร้อง” ขึ้น

เช่นนี้แล้ว “พี่ใหญ่” จะทำอย่างไร

จังหวะก้าวในการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงทรงความหมาย

ไม่ว่าจะมองจากด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองจากด้านของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์

นี่คือหินลองทองต่อความเป็น “พี่ใหญ่” อย่างแหลมคม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ