คําเตือนจาก กกต.ไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติมากด้วยความแหลมคม
เนื่องจากเป็นคำเตือนต่อ “เนื้อหา” การอภิปรายของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่นำเอา “สถาบัน” มาเป็นเครื่องมือในทางการเมือง
ชูภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชูภาพพรรครวมไทยสร้างชาติ
จึงมิได้เป็นการเตือนต่อ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี โดยตรงเท่านั้น หากแต่ยังเท่ากับเป็นการเตือนไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ
นั่นก็คือ เตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หากมองจากตัวตนของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็จะเข้าใจว่าทำไมเป็นเช่นนั้น
คำว่า “เช่นนั้น” ในที่นี้ก็คือ ความคล่องแคล่วปราดเปรียวในการนำเอา “สถาบัน” มาเป็นเครื่องมือในทางการเมือง
นี่คือความจัดเจนอันได้มาจาก “พรรคประชาธิปัตย์”
พรรคประชาธิปัตย์สันทัดเป็นอย่างสูงในการนำเอา “สถาบัน” มาเพื่อเสริมตัวเองให้สูงเด่น ขณะเดียวกัน ก็ทำลายฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมือง
ตั้งแต่ยุค “ปรีดี” จนถึงยุค “ธนาธร”
ในความเป็นจริง คำปราศรัยของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ละเอียดอ่อนอ่อนไหวยิ่ง
และในความเป็นจริง การนำเอา “สถาบัน” มาเป็นเครื่องมือในการเสริมบารมีของตนเอง และทิ่มแทงทำลายฝ่ายตรงกันข้ามปรากฏขึ้นทั่วไป
มิได้มีแต่พรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น
หากแต่เมื่อสำรวจแต่ละก้าวย่างของพรรคการเมืองอื่นในซีกที่เห็นด้วยกับรัฐประหาร เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ล้วนเคยทำในแบบ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี มาแล้ว
คําเตือนจาก กกต.แม้จะมีต่อพรรครวมไทยสร้างชาติแต่ดำเนินไปอย่างทั่วไป
จึงเท่ากับว่าแบบอย่างเช่นที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กระทำมิได้เป็นแบบอย่างที่จะสามารถทำได้เหมือนที่เคยทำมาแล้ว
ตรงกันข้าม กลับต้องระวัง กลับต้องรอบคอบอย่างรัดกุม