อีเวนต์ “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ฉายปัจจุบันและอนาคตออกมาอย่างไร
เท่ากับเป็นคำตอบว่า การออกโรงโดยการเดินเข้าไปหานักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ไม่ปังอย่างที่มาดคาดหมาย
จึงจำเป็นต้องหอประชุมแห่งชาติ “สิริกิติ์”
เป้าหมายอย่างแท้จริง คือ ต้องการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างปังอลังการมิใช่ดำเนินไปอย่างเรียบและเงียบเหมือนที่ผ่านมา
ถามว่าบรรลุ “สัมฤทธิภาพ” อย่างไร
คําถามถึงความสำเร็จ คำถามถึงความล้มเหลว ขึ้นอยู่กับเป็นการถามใคร
หากถาม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หากถาม นายธนกร วังบุญคงชนะ หากถาม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หากถาม นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
ก็ย่อมประสบความสำเร็จเกินร้อย
หากถาม นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต หากถาม นายเจษฎ์ โทณะวณิก หากถาม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ก็ย่อมจะได้อีกคำตอบหนึ่ง
คนหนึ่งมองเห็นดาว คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
กระนั้น เกจิทางการเมืองเสนอว่า ต้องรอจังหวะก้าวทางการเมืองต่อไป
จังหวะก้าว 1 คือการไหลของบรรดา ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ และจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะไปเพิ่มยอดให้หรือไม่
หรือว่านิ่งสนิท ไม่มีความเคลื่อนไหวใด
จังหวะก้าว 1 ดูจากข้อเสนอภายในพรรครวมไทยสร้างชาติว่าจะผลักดันบทบาทให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคลื่อนไหวอย่างใด
จังหวะก้าวนี้แหละคือคำตอบอย่างเป็นจริง
นับแต่เกิดสถานการณ์เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมเป็นต้นมา ก้าวใหม่ทางการเมืองก็ปรากฏ
เป็นการเมืองแห่งการใช้งาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในฐานะของ “นายกรัฐมนตรี” ไม่ว่าในฐานะ “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรี
เป้าหมายคือ รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ