แสงแห่งสปอตไลต์กำลังฉายจับไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติอีกครั้งหนึ่ง

ไม่เพียงเพราะการเคลื่อนไหวของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หากแต่อยู่ที่สถานะที่ดำรงอยู่ในทางการเมืองของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ในตำแหน่ง “ที่ปรึกษา” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การประชุมใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติใน วันที่ 2 สิงหาคม จึงเป็น “หมุด” อันทรง “ความหมาย” ยิ่งต่อก้าวทางการเมืองในปีกของรัฐบาล

สะท้อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าคิดอย่างไร

สถานะของพรรครวมไทยสร้างชาติเท่ากับเป็น “หมาก” หนึ่งในทางการเมือง

เป็นหมากที่ได้รับการโหมกระพือขึ้นเสมือนกับเป็น “ตัวแทน” และ “จังหวะก้าว” หนึ่งในทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทุกครั้งที่มีปัญหาปะทุจากพรรคพลังประชารัฐ

ไม่ว่าจะเป็นในยุคที่ดัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เข้าไป ไม่ว่าจะข่าวปล่อยว่าจะเป็นก้าวสำคัญจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในทางการเมือง

ประหนึ่งเป็นที่หยั่งและวางขา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

องค์ประกอบและกระแสอันเกี่ยวพันพรรครวมไทยสร้างชาตินั่นแหละสำคัญ

สำคัญเพราะว่าสายสัมพันธ์ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากที่เคยสั่งสมในยุคอยู่ในร่มธงของพรรคประชาธิปัตย์นั้นมากด้วยความหมาย

จึงเห็นการขยับของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์

เมื่อ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ขยับย่อมอ่านได้ถึงเงาทะมื่นของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และปรากฏการเข้ามาของ นายวิทยา แก้วภราดัย

เท่ากับเป็นการผนึกกำลังอีกครั้งของ “มวลมหาประชาชน”

หากสภาพการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติอึกทึกครึกโครมในวันที่ 2 สิงหาคม

สังคมย่อมอ่านการแสดงออกของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ทะลุไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

มองเห็น “เครือข่าย” ประจักษ์ใน “สายสัมพันธ์”