ถามว่าปฏิกิริยาความไม่พอใจของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ มีมูลเชื้อมาอย่างไร
คำตอบจากปากของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เองอาจไม่แจ่มชัด แต่การประกาศถอนตัวจากการเป็นว่าที่ “ผู้สมัคร” ส.ส.ก็เป็นเบาะแสหนึ่ง
นั่นคือ ความไม่พอใจต่อ “อันดับ” บัญชีรายชื่อ
เนื่องจาก นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ประเมินบทบาทและความหมายของตนที่ทุ่มเทให้กับพรรคมีมากกว่านั้นจึงสมควรอยู่อันดับที่ดีกว่านั้น
อันดับ “บัญชีรายชื่อ” จึงเป็นเหตุผลอย่างแท้จริง
เหตุผลของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ก็เช่นเดียวกับของ นายคริส โปตระนันทน์
เพียงแต่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รู้สึกว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ให้ความเป็นธรรม ขณะที่ นายคริส โปตระนันทน์ เป็นพรรคก้าวไกล
กระทั่งตั้งข้อสังเกตว่ามี “โปลิตบูโร” ดำรงอยู่
กล่าวสำหรับพรรคพลังประชารัฐเชื่อได้เลยว่าผลสะเทือนจากอันดับบัญชีรายชื่อมิได้มีแต่เพียง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เท่านั้น
หากน่าจะมี “คลื่นใต้น้ำ” อีกจำนวนหนึ่ง
ถามว่าเหตุใด นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จึงแยกออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย
คำตอบโดยพื้นฐานคือ เพราะว่าความพยายามควบรวมกับพรรคไทยสร้างไทยก่อความหวั่นไหวให้กับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
ทั้งในทาง “ความคิด” และในทาง “การเมือง”
กระนั้น เหตุผลหนึ่งซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า หากมีการควบรวมจริงการจัดอันดับบัญชีรายชื่อนั้นแหละจะกลายเป็นปัญหา
จึงได้แยกออกและมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ
พลันที่มีการจัด “อันดับ” ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อออกมา ปัญหาก็จะสำแดงตัว
ไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคก้าวไกล จึงยังไม่มีการจัด “อันดับ”
“อันดับ” นั่นแหละจะก่อ “ปฏิกิริยา” เข้มข้น