มี “เส้นแบ่ง” อย่างแน่นอนระหว่าง “รุ่นเก่า” กับ “รุ่นใหม่” ณ เบื้องหน้า “โลกโซเชี่ยล”
เหมือนกับจะเป็นเส้นแบ่งในเรื่องของ “วัย” เหมือนกับจะเป็นเส้นแบ่งในเรื่อง “เทคโนโลยี” อันเป็นเครื่องมือ
เป็นเช่นนั้น แต่ก็มิใช่ทั้งหมด
ในเมื่อวัยเป็นเรื่องของ “อายุ” เป็นเรื่องของการกำเนิดเกิดมา ย่อมสัมพันธ์อยู่กับการดำรงชีวิต ย่อมแยกไม่ออกจากยุคและสมัยที่แวดล้อม
กระนั้น เทคโนโลยีก็สำคัญ
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่การติดอยู่กับความเคยชินเก่า บทสรุปเก่าทางความคิด
แม้จะรับรู้ว่าอยู่ในพื้นที่ของ “สื่อใหม่” อย่างที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องมืออย่างใหม่ มิได้เป็นเรื่องของกระดาษ หรือแท่นพิมพ์อีกต่อไปแล้ว
แต่ความนึกคิดก็ยังเป็นความนึกคิดในแบบ “แท่นพิมพ์”
ด้านหนึ่ง จึงตื่นตาตื่นใจในความรวดเร็วและฉับไวในการนำเสนอออกไป แต่อีกด้านหนึ่งก็ลืมไปว่าหากผิดทิศทาง ความฉับไวก็อาจเป็นอันตราย
เป็นอันตรายที่กลายเป็น “ฟุตปรินต์” อยู่อย่างยาวนาน
คนรุ่นเก่าเกรอะกรังด้วยคราบไคลแห่งความคิดเก่าอย่างยากจะสลัดหลุดได้โดยง่าย
ไม่ว่าในเรื่องของ “ความเสมอภาค” แม้จะสมานทานในเรื่องความเท่าเทียม แต่เมื่อได้ยินเสียงของเด็กๆ ภาพ “อาบน้ำร้อน” มาก่อนก็โชยกรุ่นชวนถวิลหาอาวรณ์
ยิ่งทัศนคติในเรื่อง “เพศสภาพ” ยิ่งละเอียดอ่อน
มีคนรุ่นเก่าจำนวนมากติดอยู่ในหล่ม“เหยียดเพศ”มาอย่างยาวนาน มีคนรุ่นเก่าจำนวนมากสลัดไม่หลุดในเรื่องของ “อาวุโส” กว่า จัดเจนกว่า
พรรคพี่ พรรคน้อง ก็มีรากฐานมาอย่างนี้ เฮ้ออออ
จังหวะก้าวของการ “สมาน” ประสานระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่จึงต้องอาศัย “เวลา”
เป็นเวลาแห่งการเรียนรู้ ไม่เพียงแต่เรียนรู้ “ตัวเอง” หากแต่ยังต้องเรียนรู้ “คนอื่น” ไม่เพียงแต่เรียนรู้พรรคของ “เรา” ยังต้องเปิดใจกว้างกับพรรคของ “เขา”
คัมภีร์แห่ง “เวลา” จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูง