คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

รุ่นใหม่ การเมืองมองภาพ พริษฐ์ วัชรสินธุกับ ‘อนาคตใหม่’

คําประกาศพร้อมเปิดประตูให้ “คนรุ่นใหม่” จากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์

สร้างความคึกคักเป็นอย่างสูงในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพของ เมธี ลาบานูน ไม่ว่าจะเป็นภาพของ นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา

บรรยากาศเช่นนี้คือการอุ่นเครื่องก่อน “เลือกตั้ง”

ไม่ว่าจะเป็นคำประกาศจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นคำประกาศจากพรรคประชาธิปัตย์ ภาพจำเป็นอย่างมากคือภาพของ “นิว เด็ม”

ถามว่า ณ วันนี้บรรดา “นิว เด็ม” ทั้งหลายหายไปไหน

ต้องยอมรับว่าเมื่อเอ่ยถึง “นิว เด็ม” คนย่อมนึกถึงภาพ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โดยอัตโนมัติ

ภาพของ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ก่อให้เกิดนัยประหวัดไปยังภาพของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2535

เพราะเป็นหนึ่งเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม.

เพราะ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ไม่เพียงแต่เป็น “หลาน” ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่ยังพยายามเดินตามรอยเท้าของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกด้วย

คำถามก็คือ วันนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ อยู่ที่ไหน

ต้องยอมรับอีกนั่นแหละว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หายไปพร้อมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เพียงแต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อำลาจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและไปเลียแผลในฐานะยังเป็นสมาชิกพรรคตลอดชีพของพรรคประชาธิปัตย์อยู่

แต่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ลาขาดจากพรรคประชาธิปัตย์สิ้นเชิง

ภาพที่เห็นคือภาพร่วมเคลื่อนไหวเพื่อรื้อระบอบประยุทธ์และสร้างรัฐธรรมนูญใหม่อย่างชนิดเคียงบ่าเคียงไหล่กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า

พอจะมองได้หรือยังว่าทิศทาง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จะไปทางไหน

คําประกาศเปิดรับ “คนรุ่นใหม่” จากแต่ละพรรคการเมืองสะท้อนนัยยะอะไรในทาง การเมือง

เด่นชัดว่าสะท้อนผลสะเทือนจากการเกิดขึ้นมา ของพรรคอนาคตใหม่ สะท้อนถึงบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ความหมายก็คือ เดินตามรอยที่พรรค อนาคตใหม่ได้บุกเบิกเอาไว้