วิเคราะห์การเมือง : รายจ่าย การเมืองจากรายรับ พลังประชารัฐและ ประชาธิปัตย์

Home » วิเคราะห์การเมือง : รายจ่าย การเมืองจากรายรับ พลังประชารัฐและ ประชาธิปัตย์


วิเคราะห์การเมือง : รายจ่าย การเมืองจากรายรับ พลังประชารัฐและ ประชาธิปัตย์

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

รายจ่าย การเมืองจากรายรับ พลังประชารัฐและ ประชาธิปัตย์

การเลือกตั้ง “ซ่อม” ไม่ว่าจะเป็นชุมพร สงขลา และกทม.กำลังจะเป็น“บทเรียน”

เนื่องจากองค์ประกอบหนึ่ง เพราะว่าพื้นที่ชุมพร พื้นที่สงขลา เป็นพื้นที่เดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พื้นที่กทม.เป็นพื้นที่เดิมของพรรคพลังประชารัฐ

พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนอยู่ใน“รัฐบาล”

การส่งคนลงสมัครของพรรคพลังประชารัฐ ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงตกอยู่ในฐานะเป็น “เป้า” ในการวิพากษ์โจมตีเพื่อชิงเอาคะแนนเสียง

คำถามก็คือ ทำไมจึงต้องมีการเลือกตั้ง “ซ่อม”

ความจำเป็นอันทำให้เกิดการเลือกตั้ง “ซ่อม” มาจากวิบากกรรมอันเป็นของ“รัฐบาล”

ประการแรก เพราะคนเหล่านั้นกลายเป็น “อดีต ส.ส.” จากผลการตรวจสอบและวินิจฉัยโดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ต้องพ้นสภาพของ ส.ส.

เป็นไปตามความผิด เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

เพราะว่า นายถาวร เสนเนียม และ นายชุมพล จุลใส ร่วมในปฏิบัติการสกัดกั้นการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 เพราะว่า นายสิระ เจนจาคะ ต้องโทษและติดคุก

น่าสนใจก็ตรงที่ท่านเหล่านี้ล้วนร่วมอยู่ใน “กปปส.”

นั่นคือ กปปส.ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก่อนรัฐประหาร 2557

ภาพของ นายชุมพล จุลใส เป็นอย่างไร ภาพของ นายถาวร เสนเนียม เป็นอย่างไร ภาพของ นายสิระ เจนจาคะ เป็นอย่างไร

เด่นชัดอย่างยิ่งในความรับรู้ของสังคม

แม้ว่า 2 คนจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่า 1 คนจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนมีภารกิจเดียวกัน

คือยกมือและขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะส่งใคร ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งใครลงสนามในการเลือกตั้ง

คนเหล่านั้นเมื่อเป็นตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อเป็นตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ย่อมจะต้องแบกรับเรื่องของรัฐบาลเข้าไปอย่างเต็มพิกัด

นี่ย่อมเป็น “รายจ่าย” ในห้วงแห่งการรณรงค์ “หาเสียง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ