ภาพที่เชียงใหม่กับภาพที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศมีแรงสะเทือนแหลมคม

เนื่องจากภาพที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวเอก เนื่องจากภาพที่เชียงใหม่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นตัวเอก

ทั้งสองภาพเด่นชัดว่ามีผลต่อ “คะแนนเสียง”

เพียงแต่คะแนนเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อไปปรากฏในนามหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงสัมพันธ์กับ “การเลือกตั้ง”

แต่ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตกต่างออกไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เนื่องจากองค์ประกอบของนักศึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศระยะหลังมิได้เป็นเรื่องของ “กองทัพ” ล้วนๆ หากแต่ดำเนินไปอย่างระคนเคล้า

นั่นก็คือ ด้านหลักเป็น “ข้าราชการ” แต่ก็มี “ภาคเอกชน”

ข้าราชการในที่นี้มิได้เป็นในสังกัดกระทรวงกลาโหม หากแต่มาจากกระทรวง ทบวง กรมอื่น รวมทั้งที่เป็น “รัฐวิสาหกิจ” และที่เป็น “นักธุรกิจ”

การไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงสำคัญ

สำคัญประการหนึ่งเพราะเกิดในห้วงแห่งคำสั่ง “พัก” การปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

สำคัญประการต่อมา บรรยากาศของการพบปะมิได้เป็นการพบปะระหว่าง “รัฐมนตรี” กับ “นักศึกษา” อย่างธรรมดาปกติ

หากแต่ดำเนินไปในลักษณะให้ “กำลังใจ”

ทั้งยังเป็นการให้กำลังใจตามความเคยชินแบบ “ทหาร” แบบ “สถาบัน” วิชาการป้องกันประเทศจึงกระหึ่มด้วยบทเพลงประเภท “ปลุกใจ”

จึงสะท้อน “ความเหี้ยมหาญ” ออกมาอย่างเด่นชัด

ภาพ 2 ภาพระหว่างที่เชียงใหม่จึงขัดแย้งกันโดยพื้นฐานกับภาพที่มหานครกรุงเทพฯ

ภาพที่เชียงใหม่สะท้อนกระแสแห่ง “การเลือกตั้ง” อย่างเด่นชัด ขณะที่ภาพที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศเปี่ยมด้วยกระแส “ปลุกใจ” ให้ฮึกเหิม

ก่อให้เกิดความรู้สึกในแบบแอน แอ่น แอ๊น ขึ้นมา