การดำรงอยู่อย่าง“อิสระ”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สำคัญในทางการเมือง
คำว่า“อิสระ”อันเปล่งประกาศจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อ 2 ปีก่อนถูกมองด้วยความแคลงคลาง กังขา มาอย่างน่อเนื่อง
คล้ายกับว่าเป็นการเล่นละคร ตบตาในทาง การเมือง
หากจับกระแสข่าวจาก“ภายใน”ของพรรค เพื่อไทยก็จะเห็นความพยายามอย่างเป็นจริงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ท่ามกลางความไม่เชื่อที่ ดำรงอยู่
ทั้งๆ ที่เป็นความตั้งใจของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ตาม
ถามว่าชัยชนะอย่างท่วมท้นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาจากปัจจัยอะไร
คำตอบที่ตรงเป้าอย่างที่สุดก็คือ ความเชื่อมั่นว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงความเป็น“อิสระ”อย่างแท้จริง
ความหมายคือ อิสระจาก“พรรคเพื่อไทย”
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้รับความไว้วางใจจากคนที่เคยเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจากคนที่เคยเข้าร่วมกับมวลมหาประชาชนกปปส.
แม้กระทั่ง“คนรุ่นใหม่”ก็ยังเทคะแนนให้
การจัดระยะห่าง การกำหนดจังหวะก้าวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็สำคัญ
เห็นได้จากวันแรกที่ปรากฏผลการเลือกตั้ง มือของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ทอดไปยังมือของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ด้วยความยิ้มแย้ม
จากนั้น ก็ยื่นมือไปยัง“ประชาธิปัตย์”
ยิ่งเมื่อเดินทางไปร่วมทำบุญกับ น.ต.ศิธา ทิวารี พร้อมกับภาพของส.ก.ในพื้นที่ซึ่งเป็นคนของพรรคไทยสร้างไทย ยิ่งเห็นอย่างเด่นชัด
แม้เมื่อเดินทางไปร่วมงาน ณ สวนครูองุ่น ก็มีความชัดเจน
ความเป็นอิสระ ความเป็นตัวของตัวเองจึงได้กลายเป็นจุดแข็งและเป็นโลโก้
ทำให้แม้จะได้รับเลือกในตำแหน่ง“ผู้ว่าฯกทม.”แต่ก็ก่อผลสะเทือนและสร้างภาพเปรียบในทางการเมืองไปถึงตำแหน่ง“นายกรัฐมนตรี” โดยอัตโนมัติ
ก่อให้บางคนใน“ทำเนียบรัฐบาล” กระบอกตาร้อนผ่าว