การนำเอา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม มาอยู่เวทีเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น่าสนใจ
น่าสนใจพอๆ กับการนำเอา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มานั่งสดุดีความยอดเยี่ยมล้ำเลิศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
โดยมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อมยิ้มอยู่ไม่ห่างนัก
ต้องยอมรับว่าการบริหารจัดการของ เดอะ สแตนดาร์ด โดยกระบวนการเล่นบทเป็นคนกลางโดย ออฟ ชัยนันท์ ประสบความสำเร็จ
ก่อให้เกิดเสียง “ฮา” ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ถามว่าความมันส์ของเวที “ดีเบต” ประชันวิสัยทัศน์จะมาจาก “องค์ประกอบ” ใด
ตอบได้เลยว่ามาจากการหาคนจากพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ มานั่งประจันหน้ากับคนจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
ยิ่งเชิญคนจากพรรคไทยภักดีเข้ามา “แจม” ยิ่งมากสีสัน
เพียงเห็น นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ออกมาชูความยอดเยี่ยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถือว่าควรค่าแก่เวลาที่สูญเสียไป
เมื่อเห็นรอยยิ้มจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
กลายเป็น นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นฝ่ายเรียกเสียงฮา
เป็นการเรียกเสียงฮาโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่จำเป็นต้องขบคิดหามุขเหมือนที่ทำงานอย่างหนักเมื่อขึ้นเวที “ครอบครัวเพื่อไทย”
เพียงเห็นรอยยิ้ม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็เต็มอิ่ม
เพราะภายใต้ความขึงขังของ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ชัดเจน เพราะภายใต้การเสนอเลิกแบงก์พันปราบคอร์รัปชั่นของ “คุณหมอ” ก็เฉียบคมยิ่ง
เหนือกว่าการคัฟเวอร์ของ แจ๊ส ชวนชื่น หลายเท่า
การจัดเวที “ดีเบต” ประชันไม่ว่าจะจากมติชนทีวี ไม่ว่าจะจากไทยรัฐ จึงเฉียบ
เป็นความเฉียบที่ทุกคนรอคอยว่าเมื่อไหร่คิวในการขึ้นเวทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมาเยือน
หากได้เห็นก่อนพฤษภาคมก็ถือว่าเป็นบุญ