คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ประชัน การเมือง “ก้าวไกล” เทียบกับ“กล้า” การเมือง คุณภาพ
การปรากฏตัวของพรรคกล้าในสนามเลือกตั้ง “ซ่อม” ได้รับการจับตาใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็นการส่งคนลงสมัครในพื้นที่ เขต 1 ชุมพร ไม่ว่าจะในพื้นที่ เขต 6 สงขลา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ เขต 9 จตุจักร หลักสี่
เพราะส่ง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค
ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ก็ได้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ซึ่งเคยสร้างความสำเร็จให้กับพรรคพลังประชารัฐมาแล้วมาเป็นผู้อำนวยการ
พร้อมกับคำประกาศจะสร้าง “การเมือง” เปี่ยม “คุณภาพ”
การติดตามจังหวะก้าวพรรคกล้าผ่าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จึงทรงความหมาย
เพราะทุกเวทีทางการเมือง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ยืนยัน “คุณภาพ” ทางการเมืองที่เป็น “นักปฏิบัตินิยม” ของพรรคกล้าออกมาอย่างเด่นชัด
หากไม่เคยมี “พรรคอนาคตใหม่” หากไม่มี “พรรคก้าวไกล”
บทบาทและการเคลื่อนไหวของพรรคกล้าที่นำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จะมีความโดดเด่นราวกระเรียนในฝูงไก่ ทีเดียว
การมี “พรรคก้าวไกล” จึงทำให้เกิดอาการสะดุดกับ “พรรคกล้า”
อาการสะดุดของพรรคกล้าเป็นอาการสะดุดแทบจะในทุก “พื้นที่” ทางการเมือง
ยิ่งในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่า เขต 1 ชุมพร ไม่ว่า เขต 6 สงขลา มี พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ถือธงของพรรคกล้านำผู้สมัครลงชิงกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ
ยิ่งทำให้เกิดอาการ “สะดุด” อย่างเด่นชัดโดยอัตโนมัติ
เพราะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับความเป็นคน หน้าใหม่ ไม่ว่า “น้องตาม” แห่งสงขลา ไม่ว่า “น้องโอ๊ต” แห่งชุมพร
หรือกระทั่ง “พี่เพชร กรุณพล” แห่งจตุจักร หลักสี่
จุดเปรียบระหว่าง นายกรณ์ จาติกวณิช กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ย่อมบังเกิด
บังเกิดเพราะไม่ว่า นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่ว่า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี มีคราบไคลแห่งพรรคประชาธิปัตย์ติดตัวมาอย่างเต็มพิกัด
ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ใสกิ๋งมาจาก “อนาคตใหม่”