คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ประกัน ราคาข้าว
กับ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
และ ประชาธิปัตย์
ปัญหาอันเกี่ยวกับนโยบาย “ประกันราคาพืชผล” กำลังมากด้วยความละเอียดอ่อน
หากมองเพียงปฏิกิริยาอันมาจาก นายสันติ พร้อมพัฒน์ แม้จะกระทำในนามของรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แต่ก็สร้างความหงุดหงิดเป็นอย่างสูง
เพราะว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ มาจากพรรค พลังประชารัฐ
กระนั้น หากจับอาการอันสะท้อนมาจากทั้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ก็ยิ่งมากด้วยความอ่อนไหวอย่างเป็นพิเศษ
เพราะ 2 คนนี้เป็น “นขต.” ของ “นายกรัฐมนตรี”
ความละเอียดอ่อนอันมาจากพรรคพลังประชารัฐสามารถเข้าใจได้ไม่ยากเท่าใดนัก
เพราะว่านโยบาย “ประกันราคาพืชผล” เหมือนกับจะได้รับการบรรจุให้เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่คนที่ผลักดันอย่างเต็มกำลังคือพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ย่อม “โชว์” ได้อย่างเต็มพิกัด
ยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คือ นายจุรินทร์ ลักษณพิศิษฏ์
หากเป็นผลดีพรรคประชาธิปัตย์ย่อมได้รับในแบบเน็ต เน็ต
จากนี้หากมองเพียงผิวเผินเหมือนกับกลายเป็นเรื่องเพราะพรรคพลังประชารัฐไม่ยอม
กระนั้น หากมองจากท่วงท่าและอาการของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ก็ไม่น่าจะเป็นความหงุดหงิดจาก นายสันติ พร้อมพัฒน์
เนื่องจากทั้ง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ คือหูตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมกระสาต่อปัญหาที่จะตามมาจริง
นั่นก็คือ รับรู้ว่าเทงบประมาณไปเกือบ 9 แสนล้านบาทแล้ว
ปัญหาของนโยบาย “ประกันราคาพืชผล” จึงย่อมถูกโยงไปใกล้กับนโยบาย “จำนำข้าว”
คำถามก็คือ หากจำนำข้าวเงิน 7 แสนล้านบาทมีการทวงถาม แล้วเงินงบประมาณเกือบ 9 แสนล้านบาท ในการประกันราคาพืชผลจะมีท่าทีอย่างไร
นี่คือโจทย์ทางการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องประสบ
