คะแนนและความสำเร็จของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีลักษณะจุดประกาย
เป็นประกายจากการประกาศตัวเป็น “อิสระ” กลายเป็นอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งแยกออกมาอย่างเป็นต่างหากไปจากของพรรคเพื่อไทย
เป็น “อิสระ” แต่มิได้เป็น “ปรปักษ์”
แม้จะถูกโจมตีในลักษณะกล่าวหาจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง แต่ก็สามารถอธิบายและสร้างความมั่นใจได้
คะแนนกว่า 1 ล้านคือตัวอย่างอย่างเป็นรูปธรรม
ต้องยอมรับว่าคะแนนกว่า 1 ล้านสะท้อนลักษณะผสมผสานในทางการเมือง
ส่วนหนึ่ง อาจได้มาจากฐานของพรรคเพื่อไทยที่เป็นมิตร ส่วนหนึ่ง อาจได้มาจากฐานของคนรุ่นใหม่ซึ่งแนบแน่นอยู่กับพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นพรรคก้าวไกล
ยิ่งกว่านั้น ยังได้มาจากกลุ่มที่ถูกเรียกว่า “สลิ่ม”
ความสามารถเช่นนี้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำได้ พรรคก้าวไกลซึ่งมาจากพรรคอนาคตใหม่ก็ยังไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่น
ทั้งหมดนี้กลับสะท้อนผ่าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
เหมือนกับบทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะเป็น “กลาง” ทั้งๆ ที่มิได้เป็นเช่นนั้น
ไม่ว่าระหว่างการหาเสียง ไม่ว่าเมื่อเห็นเด่นชัดว่าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำรงความเป็นตัวของตัวเองอย่างหนักแน่นและมั่นคง
ยืนยันในความเป็น “อิสระ” อย่างเด่นชัด
ถอยห่างออกจากพรรคเพื่อไทย มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคก้าวไกล แต่ก็มิได้เป็นอย่าง พรรคก้าวไกลอย่างสนิทแนบแน่น
เห็นคะแนนจาก “ประชาชน” เป็นเหมือน “คำสั่ง”
ความสำเร็จของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงได้จุดประกายในทาง “ความคิด”
เป็นความคิดที่จะต่อยอดและพัฒนาจากกลุ่มทางการเมืองเฉพาะกิจให้กลายเป็นพรรคการเมืองที่จะอาสาเข้าแก้ไขปัญหาที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน
จะสามารถสร้างได้และเป็นพลังหรือไม่ ต้องให้เวลา