การดำรงอยู่ของ “กรณีตู้ห่าว” การดำรงอยู่ของ “ส.ว.ทรงเอ” อยู่ระหว่างการพ่นพิษ
บทบาทของ นายรังสิมันต์ โรม และพรรคก้าวไกล จะทำให้เกิดการขยายผลอย่างลึกซึ้งและกว้าง ขวางในทางความคิด ในทางการเมือง
ต่อยอดจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อย่างทรงพลัง
องค์ประกอบสำคัญมิได้อยู่ที่ว่าเป็นเรื่องของบ่อนพนัน ไม่ว่าโดยตรง ไม่ว่าออนไลน์ หากแต่ยังโยงสายยาวไปยัง “ยาเสพติด”
กระแทกตรงสู่กระบวนการ “ยุติธรรม” ของบ้านเมือง
คล้ายกับ “ธุรกิจสีเทา” เหล่านี้จะโยงถึง “ตำรวจ” หากที่สุดแล้วก็ถึง “อำนาจรัฐ”
ถามว่าทำไม “ตู้ห่าว” จึงลงเอยไปที่การบริจาคเงิน 3 ล้านบาทให้กับพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังได้ “สัญชาติไทย” อย่างครบถ้วนกระบวนความ
นั่นย่อมหวังได้บารมีจากพรรคพลังประชารัฐ
ถามว่าทำไมจึงปรากฏพยานให้กับ “ส.ว.ทรงเอ” ในคดีซึ่งพันพัวอยู่กับธุรกิจยาเสพติดและการฟอกเงินจึงเป็นบุคคลระดับ “พล.ต.อ.”
และรวมถึงสำนักงานแห่งพรรครวมไทยสร้างชาติ
การดำรงอยู่ของ “ตู้ห่าว” ไม่ธรรมดา การดำรงอยู่ของ “ส.ว.ทรงเอ” จึงมีเส้นสายยาว
แม้ตำรวจระดับ “พ.ต.ท.” จะเอาการเอางานยิ่งในการสืบสวนกระทั่งมั่นใจว่าสามารถขอ “หมายจับ” มาจัดการได้
กระนั้น ก็ต้องพบกับ “ตอ” กีดขวางตลอดสองรายทาง
การเปิดโปงจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จึงทรงความหมาย การรับลูกและขยายผลโดย นายรังสิมันต์ โรม จึงส่งผลสะเทือน
ถึงพรรคพลังประชารัฐ ถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ
เครือข่ายและสายสัมพันธ์ต่อพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติสำคัญ
ฉายชี้ให้เห็นว่าเงินบริจาคจำนวนหนึ่งมาอย่างไร ฉายชี้ให้เห็นว่าทำไมสำนักงานพรรคต้องเป็นบนที่ดินและตึกของ “ส.ว.ทรงเอ”
ทั้งหมดนี้ล้วนเข้าข่าย “ขว้างงูไม่พ้นคอ” ทั้งสิ้น
