บนเส้นทางแห่งการจัดทำ “บันทึกช่วยจำ” หรือ “ข้อตกลงร่วม” ใช่ว่าจะราบรื่น

ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคประชาชาติ ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคไทยสร้างไทย ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคเสรีรวมไทย

ล้วนมากด้วย “คำถาม” ล้วนมากด้วย “ความเห็น”

บทเรียนจากการนั่งอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค บทเรียนจากการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง นายชัยธวัช ตุลาธน ย่อมเข้าใจและรอคอย

รอคอยคำตอบสุดท้ายก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม

ถายในความเป็น “ของใหม่” การริเริ่มในเรื่อง “บันทึกช่วยจำ” นำไปสู่คำถามตามมา

เพราะรากฐานของพรรคเพื่อไทย คือความต่อเนื่องจากพรรคไทยรักไทย คือความต่อเนื่องจากพรรคพลังประชาชน มากด้วยประสบการณ์

จำเป็นต้องให้เกียรติ จำเป็นต้องเคารพ

ขณะที่พรรคประชาชาติ คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคไทยสร้างไทย คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเสรีรวมไทย คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

จำเป็นยิ่งที่จะต้อง “ล้างหู” น้อมรับฟัง

ประสบการณ์ใน “อดีต” กับ ประสบการณ์ “ปัจจุบัน” เป็นเรื่องต้องมีการปรับแต่ง

ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาชาติ ไม่ว่าพรรคไทยสร้างไทย ไม่ว่าพรรคเสรีรวมไทย ไม่ว่าพรรคเป็นธรรม ไม่ว่าพรรคเพื่อไทรวมพลัง

ล้วนมีเจตจำนงในทาง “อัตวิสัย” เป็นของตนเอง

การหลอมรวมเจตจำนงในทาง “อัตวิสัย” อย่างคำนึงถึงความเป็นจริงในทาง “ภววิสัย” จึงเป็นความจริงที่จะต้องผ่านการแลกเปลี่ยน ประสาน

นี่คืองานของพรรคก้าวไกล นี่คืองานของ นายชัยธวัช ตุลาธน

ผลอันออกมาจากคำประกาศ “ร่วม” ในเวลา 16.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม คือผลึก

ผลึกแห่งความเห็นชอบร่วมกันที่จะเดินหน้าทำงานในฐานะ “รัฐบาล” อันได้ฉันทานุมัติมาจาก “ประชาชน”

ปิด “สวิตช์ 3 ป.” นำไปสู่การ “ปิดสวิตช์ ส.ว.”