จังหวะก้าว “ขอคนละชื่อ ปลดล็อก ท้องถิ่น” ของคณะก้าวหน้า น่าจับตาติดตาม
ยิ่งการยกขบวนทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และ น.ส.พรรณิการ์ วาณิช เดินทางไปตั้งเวทีอภิปรายกันยาวเหยียดที่เชียงใหม่
โดยมี นายชำนาญ จันทร์เรือง เป็นเจ้าภาพใหญ่
เมื่อประสานกับการเคลื่อนไหวโดย “30 เครือข่าย” เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่” ยิ่งก่อให้เกิดความตื่นตาตื่นใจ
ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนขนมพอสมกับน้ำยา
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการจังหวัด”
คำตอบแรกสุดก็เนื่องจากผลสะเทือนของการ เลือกตั้งไม่ว่าจะเป็น “ผู้ว่าฯกทม.” ไม่ว่าจะเป็น “นายกเมืองพัทยา” อันมากด้วยสีสันและความคึกคัก
ก่อให้เกิดคำถาม ทำไมเลือกแค่กทม. ทำไมเลือกแค่พัทยา
ทำไมเชียงใหม่ ทำไมพิษณุโลก ทำไมนครศรี ธรรมราช ทำไมยะลา ปัตตานี ทำไมนครราชสีมา ทำไมอุดรธานี อุบลราชธานี ไม่ได้เลือก
นับวันคำถามเหล่านี้ยิ่งมากด้วยความแหลมคม
ในความแหลมคมของ “คำถาม” นี้เองที่ “คณะก้าวหน้า” เริ่มขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
มิได้เป็นการขับเคลื่อนเฉพาะ “คณะก้าวหน้า” ตรงกันข้าม กลับร่วมมือกับพันธมิตรในแนวร่วมอันใกล้ชิดอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ถือฤกษ์เบิกชัยในวันที่ 1 เมษายนเป็นการเดินทางไกล
ประสานกับพันธมิตรอย่างพรรคก้าวไกล กระจายกันเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะก้าว ไม่ว่าภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้
พุ่งเป้าเข้าสู่การแก้ไข “รัฐธรรมนูญ”
การขับเคลื่อนของ “คณะก้าวหน้า” โดยประสานกับ “พรรคก้าวไกล” มาจากปัจจัยอะไร
ปัจจัยแรกก็เป็นการตอบคำถามซึ่งค้างคามาจาก “พรรคอนาคตใหม่” ปัจจัยต่อมาก็คือการเข้าไปมีส่วนในการเลือกตั้งระดับ “ท้องถิ่น”อย่างเป็นจริง
มองเห็นปัญหาและตระหนักว่าต้องลงมือปฏิบัติ