การปรากฏของพรรครวมไทยสร้างชาติ สะเทือนต่อพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง
ไม่เพียงเพราะ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เคยเป็นแกนหลักพรรคประชาธิปัตย์ และเคยชิงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เท่านั้น
หากแต่ยังประกาศจะยึดครองพื้นที่ “ภาคใต้”
หากแต่ในวันเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ ความคึกคักเป็นอย่างมากสัมผัสได้จากการเข้าร่วมของพลังทางการเมืองจากภาคใต้
ไม่ว่า “ชุมพร” ไม่ว่า “สงขลา”
หลายคนจับตามองไปยังบทบาทของ นายวิทยา แก้วภราดัย ที่เป็นกรรมการบริหาร
ไม่เพียงเพราะเคยเป็นประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เพียงเพราะเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในโควตาพรรคประชาธิปัตย์
หากแต่ยังเป็นกำลังสำคัญในการเคลื่อนไหว “กปปส.”
จึงไม่เพียงแต่สนิทชิดชอบอยู่กับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ หากแต่ยังเชื่อมประสานกับ นายถาวร เสนเนียม ได้อย่างแนบแน่น
สายตาจึงทอดจับไปยัง นายถาวร เสนเนียม
ถามว่าบทบาทอันทำให้ นายถาวร เสนเนียม มีความหมายทางการเมืองอยู่ตรงไหน
ตอบได้เลยว่า นายถาวร เสนเนียม เป็น “ยุวประชาธิปัตย์” ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จากนั้น เข้าอยู่ในสาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
จากนั้น เมื่อพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมก็เข้าไปหนุนช่วย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ขับเคลื่อนพรรคไทยภักดี
การดึง นายถาวร เสนเนียม เข้ามาจึงมีผลสองต่อ
ปฏิบัติการของพรรครวมไทยสร้างชาติจึงรวมศูนย์ไปยัง นายถาวร เสนเนียม
เนื่องจากหากได้ นายถาวร เสนเนียม ก็มั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ และยังเป็นการเชื่อมประสานไปยัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี
เป็นแนวผนึกไทยภักดีเข้ามารวมพลังสร้างไทยในที่สุด