ถามว่าการเลื่อนลงนามโครงการส่งน้ำใน “อีสเทิร์น ซีบอร์ด” สะท้อนนัยยะอะไร
คอการเมืองตอบได้อย่างมั่นใจว่า เป็นผลจากการเคลื่อนไหว “ร่วม” ระหว่างคนของพรรคเพื่อไทย กับ คนของพรรคพลังประชารัฐ
นั่นก็คือ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร กับ นายพิเชษฐ สถิรชวาล
หลังมีคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เลื่อนการลงนามในสัญญาออกไปอย่างไม่มีกำหนด ความหงุดหงิดจากภายในรัฐบาลก็แผ่ซ่านไปโดยรอบ
ทั้งๆ ที่ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจยังไม่เริ่ม
แรกที่มีการเคลื่อนไหวของ ส.ส.พรรคขนาดเล็กหลายคนสบประมาท หมิ่นหยาม
จำนวนไม่น้อยมองและประเมินว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อรองและสร้างราคาเพิ่มมูลค่าแห่งปริมาณในการ “แจกกล้วย” ให้บังเกิด
แต่พลันที่ “กลุ่ม 16” เริ่มขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
เป็นการขับเคลื่อนในลักษณะประสานทางด้าน “ข้อมูล” อย่างเปิดเผยกับลีลาการออกโรงของ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร จากพรรคเพื่อไทย
ตรงนี้แหละที่ผลสะเทือนเริ่มกระทบ “รัฐบาล”
หากมองจากสายตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จุดอ่อนไหวอยู่ตรงไหน
อยู่ตรงที่ชื่อและสถานการณ์ดำรงอยู่ในทางการเมืองของ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ที่คล้ายกับไม่มีพลังแต่แฝงด้วย “คอนเน็คชั่น” ในทางการเมือง
อย่าลืมว่าเขาเคยเป็น “รัฐมนตรี” ในเครือข่ายไทยรักไทย เพื่อไทย
แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็น ส.ส.อย่างที่เรียกกันว่าพวก “ปัดเศษ” แต่สถานะของเขาในปัจจุบันคือ ส.ส.คนหนึ่งภายใต้ร่มเงาของพรรคพลังประชารัฐ
พรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้า
การชะลอโครงการออกไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงคือกลยุทธ์ทางการเมือง
เป็นกลยุทธ์ในแบบ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ก่อนการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะว่าเนื้อหาในการอภิปรายคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่ย่อมเป็นผลจากการจับมือระหว่างฝ่ายค้านกับบางส่วนของรัฐบาล