มีความมั่นใจเป็นอย่างสูงของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในทางการเมือง
มั่นใจถึงขนาดที่ยืนยันในการดำรงอยู่ของคนในการก่อร่างสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่ต้นมือ กระทั่งที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ได้นั่งอยู่ในฐานะ “หัวหน้าพรรค” อย่างสมบูรณ์
การยืนยันว่าได้นั่งในตำแหน่ง “ที่ปรึกษา” นายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่เคยรู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาก่อนน่าสนใจอย่างยิ่ง
น่าสนใจพอๆ กับกรณี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
ในพรรครวมไทยสร้างชาติมิได้ระบุถึงบทบาทของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ แสดงบทบาทในการเรียก “แขก” ตั้งแต่ยังดำรงอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
นั่งทำงานอยู่ใน “ทำเนียบรัฐบาล”
การที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เคลื่อนไหวกระทั่งดึง ว่าที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ให้เข้ามาร่วมอยู่ระยะหนึ่งนับว่าแหลมคม
เป็นเพราะ “เสกสกล” หรือเป็นเพราะ “ใคร”
ความสัมพันธ์ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กับ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็น่าสนใจ
น่าสนใจไม่เพียงเพราะ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เติบใหญ่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มาด้วยกัน
ยิ่งกว่านั้นยังก้าวตาม “เส้นทาง” เดียวกันมาอย่างแนบแน่น
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา “นายกรัฐมนตรี” อย่างไร นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็ได้เป็นที่ปรึกษา “นายกรัฐมนตรี” อย่างนั้น
ต่างเพียงด้าน “กฎหมาย” กับด้าน “เศรษฐกิจ” เท่านั้น
ไม่ว่าบทบาท นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไม่ว่าบทบาท นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
2 คนนี้ขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติโดยไม่มีอะไรสัมพันธ์กับเส้นทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างที่กล่าวอ้างอย่างเปิดเผยหรือไม่
ไม่นานเกินรอ “คำตอบ” ก็จะปรากฏ