“วิษณุ” ยัน “บิ๊กป้อม” มีอำนาจเต็ม แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ช่วงรักษาการนายกฯ ไม่หวั่น ถูกร้อง เตรียมอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 8 พ.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ตามมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาการนายกฯ ในขณะนั้น เป็นประธานประชุม
นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเขาฟ้องร้องกันว่าอย่างไร แต่ทราบโดยย่อว่ามีเจ้าหน้าที่มารายงานตอนที่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรักษาการนายกฯ ในขณะนั้น และได้เป็นประธานการประชุม ก.ตร. มีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ โดยมีนายตำรวจบางท่านที่ถูกโยกย้าย เห็นว่าคนที่จะมานั่งเป็นประธาน ก.ตร. ต้องเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ
“คำตอบมีอยู่ว่าการปฏิบัติราชการแทนนายกฯ หมายความว่า นายกฯ อยู่ แต่มอบให้คนนั้นดูแล ซึ่งคนนั้นจะทำหน้าที่แทนใน ก.ตร. ไม่ได้ แต่หากนายกฯ ไม่อยู่ ตาย ลาออก หรือไปต่างประเทศ ก็มีคนขึ้นมา อันนั้นไม่ใช่ปฏิบัติราชการแทน แต่เป็นการรักษาราชการแทน โดยเป็นนายกฯ ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังได้เลย นับประสาอะไรจะไปเป็นประธาน ก.ตร.ไม่ได้
ฉะนั้น วันนั้นเป็นการใช้อำนาจคนละอย่างกัน และวันนี้ สมมติว่านายกฯ ยังอยู่ แล้วนายกฯ ประชุม ก.ตร. แต่นายกฯ ขี้เกียจไป มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร ถือว่าไม่ได้ แต่ถ้านายกฯ ไปต่างประเทศ และจำเป็นต้องประชุม กตร. วันนั้นใครที่รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นนายกฯ ตัวจริง ผมบอกแล้วว่าขนาดปรับครม. ยุบสภา ยังได้เลย” นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อถามว่า แสดงว่าเรื่องนี้สามารถยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้วิตกอะไร ซึ่งเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ที่จะเตรียมอุทธรณ์อยู่แล้วภายใน 30 วัน และยืนยันว่าพล.อ.ประวิตรในขณะนั้นมีอำนาจเต็ม ถ้าเขาฟ้องในประเด็นดังกล่าว
เมื่อถามว่า ศาลปกครองระบุว่า ภายหลัง ครม. ได้มาแก้ไขคำสั่งในวันที่ 30 ก.ย. ให้พล.อ.ประวิตร มีอำนาจเต็ม ถือว่าไม่ถูกต้อง นายวิษณุ กล่าวว่า มีคำอธิบายว่าการแต่งตั้งในภายหลังเป็นคนละเรื่องกัน เป็นการมาแก้มติครม. สำหรับอำนาจของผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ เดิมการปฏิบัติราชการแทนนายกฯ เขาให้ทำแทนได้หมด ยกเว้นการบริหารงานบุคคลและงบประมาณ คราวนี้เขาก็มายกเว้นไม่ให้ แต่ไม่ได้นำไปใช้กับกรณี ก.ตร. เขาใช้สำหรับเรื่องอื่น
