วิศวกรหนุ่ม วัย 37 ปี อุจจาระมีเลือด คิดว่าตัวเองเป็นริดสีดวง หมอบอกแทบทรุด ที่แท้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เสียชีวิตหลังรู้ผลแค่ 6 เดือน
เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า นพ.เซียว ตุนเหริน แพทย์ผู้เชี่ยวชายด้านระบบทางเดินอาหาร ได้พูดถึงเคสของวิศวกรในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ วัย 37 ปี ชาวไต้หวัน ที่เข้ารับการรักษาอุจจาระมีเลือดออกมาเป็นเวลานานและมีเลือดหยดออกมาทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ
ครั้งหนึ่งเขาเคยถามพยาบาลบริการสุขภาพแรงงาน ซึ่งอธิบายอย่างกระตือรือร้นว่า ส่วนใหญ่เป็นริดสีดวงทวาร และแนะนำให้ใช้ขี้ผึ้งรักษาก่อน แต่หลังจากนั้นปัญหาอุจจาระเป็นเลือดยังไม่ดีขึ้น ในที่สุดหลังผ่านไปครึ่งปี เขาก็ตัดสินใจมาโรงพยาบาล เพื่อส่องกล้องตรวจลำไส้
นพ.เซียว กล่าวว่า หลังจากส่องกล้องเข้าไปในช่องทวารหนักเพียงไม่กี่เซนติเมตร ก็พบว่าเต็มไปด้วยเนื้องอก และการตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าเขาเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก จึงรีบส่งตัวไปรักษาต่อ แต่น่าเศร้าที่เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วช่องท้อง จนไม่สามารถทำอะไรได้ และผู้ป่วยก็ถึงแก่กรรมในอีก 6 เดือนต่อมา
จึงอยากใช้กรณีนี้เพื่อเตือนว่าเลือดออกในอุจจาระส่วนใหญ่จะเป็นโรคริดสีดวงทวาร แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น สถานการณ์อาจรุนแรงมาก เขาขอร้องต่อสาธารณชนว่า อย่าละเลยและคิดว่าต้องเป็นโรคริดสีดวงทวาร เมื่อพบอุจจาระที่มีเลือดปน ให้ระมัดระวังและเข้ารับการตรวจลำไส้ใหญ่ทันทีเพื่อขจัดโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
นพ.เซียว ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่แบ่งออกเป็นระยะ 0 ระยะ 1 ถึงระยะ 4 แม้ว่าอัตราการรอดชีวิตของระยะ 0 และระยะ 1 จะสูงมากก็ตาม แต่แทบไม่มีอาการเลยจึงตรวจพบได้ยากจึงควรเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ ตรวจหาและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการสำคัญ 7 ประการ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
- พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนไป
- ปวดท้องผิดปกติ
- ท้องอืดท้องผูกบ่อย
- โลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีเลือดและเมือกในอุจจาระ
- น้ำหนักลด
- ถ่ายอุจจาระไม่เต็มที่