1 วันก่อนงานแต่งงาน จู่ ๆ เจ้าสาวก็ประกาศล้มงานวิวาห์ เมื่อทราบที่มาของค่าสินสอด 1.8 ล้านบาท จากครอบครัวของเจ้าบ่าว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในชุมชนออนไลน์ เรื่องราวของ นายหลี่ ไป น.ส.หว่อง แฟนสาวของเขากับญาติ ๆ อย่างมีความสุขเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงาน เมื่อได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครอบครัวแฟนสาว นายหลี่จึงมีความสุขมาก

แต่เมื่อเอ่ยถึงค่าสินสอดของเจ้าสาว ทำเอานายลีถึงกับหน้าซีด เพราะแม่ของแฟนสาวเรียกร้องค่าสินสอด 380,000 หยวน (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) ถึงจะยอมให้ลูกสาวแต่งงาน เธอคิดว่าเงินจำนวนนี้จะพิสูจน์ความรู้สึกจริงใจของว่าที่ลูกเขยที่มีต่อลูกสาวของเธอ

การที่ครอบครัวเจ้าสาวร้องขอค่าสินสอดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้นายหลี่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม เขายังคงมุ่งมั่นที่จะไม่ละทิ้งความรักและยอมรับคำขอของครอบครัวเจ้าสาว

วันรุ่งขึ้นเขาและแฟนสาวไปจดทะเบียนสมรสที่กรมกิจการพลเรือน ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ 1 วัน ก่อนมีพิธีแต่งงานก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อมีคนเปิดเผยว่าค่าสินสอดที่นายหลี่มอบให้กับครอบครัวของเจ้าสาวนั้น เป็นเงินที่เขายืมมา เรื่องดังกล่าวทำให้ว่าที่แม่ยายโกรธมาก เธอบอกว่าเขาไม่เคารพเธอ

น.ส.หว่อง ก็ไม่ยอมรับสิ่งนี้และขอเพิกถอนการสมรสทันที เพราะเธอคิดว่าถ้านายหลี่ต้องกู้ยืมเงินมาแบบนี้ เมื่อเธอได้เป็นภรรยาของเขา เธอจะต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาชำระหนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือครอบครัวของเธอไม่มีความตั้งใจที่จะคืนค่าสินสอดนั้นด้วย

ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันใหญ่ที่หน้าบ้าน น.ส.หว่อง เมื่องานแต่งงานไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะสามารถเรียกคืนค่าสินสอดได้หรือไม่นั้นยังคงเป็นคำถามใหญ่

เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนในชุมชนออนไลน์ หลายคนเชื่อว่าครอบครัวเจ้าสาวขอค่าสินสอดก้อนโตก็ไม่ต่างจากการขายลูกสาวให้ครอบครัวคนอื่น

“สำหรับเรื่องราวของคุณหลี่และ น.ส.หว่อง จะเป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับพวกเขา และยังเป็นโอกาสสำหรับพวกเขาที่จะทบทวนความรู้สึกของตัวเอง การแต่งงานโดยใช้เงินเป็นเรื่องยากที่จะมีความสุข” ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความคิดเห็น