ทุกครั้งที่ไปเดินเลือกซื้อผลไม้ สิ่งหนึ่งที่หลายคนสงสัยคือ จะเลือกแตงโมลูกไหนดีถึงจะอร่อยถูกใจ หวานฉ่ำ เนื้อดี กินแล้วกรอบอร่อย สดชื่น ช่วยดับกระหายคลายร้อน
วิธีเลือกแตงโมหวานฉ่ำ
1.สังเกตรูปทรงแตงโม
เวลาเลือกซื้อแตงโม ลองสังเกตรูปร่างของแตงโมดูค่ะ ควรเลือกแตงโมที่มีรูปทรงสมมาตร กลมมน หรือรีๆ สม่ำเสมอ เพราะแตงโมที่มีรูปร่างแปลกๆ อาจจะมีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่ไม่ค่อยดีแตงโมที่น่าสนใจคือ แตงโมที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาด เพราะนั่นหมายความว่าแตงโมลูกนั้นอิ่มน้ำและสุกกำลังดี
2.สีสม่ำเสมอทั่วทั้งลูก
แตงโมใช้เวลาเพียง 90 วันในการเติบโต และจะมีรสชาติหวานที่สุดในช่วงที่สุกเต็มที่ แตงโมที่สุกแล้วจะมีผิวด้าน ไม่มันวาว ถ้าผิวแตงโมยังมันวาวอยู่ แสดงว่าอาจจะยังไม่สุกเต็มที่ นอกจากนี้สีของเปลือกแตงโมก็สำคัญค่ะ ถ้าสีสม่ำเสมอทั่วทั้งลูก แสดงว่าแตงโมน่าจะสุกและมีรสชาติที่ทั่วถึง
จำไว้ว่าแตงโมจะไม่สุกเพิ่มขึ้นหลังจากเก็บเกี่ยวแล้วดังนั้นไม่จำเป็นต้องรอหลายวันก่อนทาน เมื่อผ่าแตงโมออกมา อาจจะพบว่าเนื้อแตงโมมีสีชมพูไม่ใช่สีแดงเข้มเสมอไป แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะสีแดงของแตงโมมาจากสารไลโคปีน ซึ่งไม่มีรสชาติ ดังนั้น ให้ลองชิมดูจะดีกว่า
3.สังเกตรอยแตกร้าว
นอกจากสีและรูปร่างแล้ว ลองสังเกตรอยแตกร้าวคล้ายเส้นเลือดบนผิวแตงโมด้วย รอยแตกร้าวเหล่านี้มักบ่งชี้ว่าแตงโมนั้นหวานเป็นพิเศษ ตรวจสอบให้ทั่วทุกด้านของแตงโม ริต้า เฟย์เคอร์รี กล่าวว่า “รอยแตกร้าวขนาดใหญ่หรือ “จุดน้ำตาล” หมายความว่าน้ำตาลกำลังซึมออกมาจากแตงโม ซึ่งแสดงว่าแตงโมนั้นหวานมาก”
รอยแตกร้าวอาจดูไม่สวยงาม และคุณอาจอยากเลือกแตงโมลูกอื่น แต่รอยแตกร้าวสีน้ำตาลเหล่านี้เกิดจากการผสมเกสร ดังนั้นยิ่งเห็นรอยแตกร้าวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าผึ้งได้ผสมเกสรให้กับแตงโมลูกนั้นมากขึ้นเมื่อยังเป็นดอก ยิ่งมีการผสมเกสรมากเท่าไหร่ ผลไม้ก็จะยิ่งหวานมากขึ้นเท่านั้น
4.สังเกตที่ขั้วแตงโม
นอกจากวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การสังเกตที่ขั้วแตงโมก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกแตงโมหวานฉ่ำได้ค่ะ
- ขั้วแห้งและม้วน: ถ้าขั้วแตงโมแห้งและม้วนเข้าหากัน แสดงว่าแตงโมลูกนั้นแก่จัดและมีโอกาสสูงที่จะหวานฉ่ำ
- ขั้วสดและตรง: ถ้าขั้วแตงโมยังสดและตรงอยู่ แสดงว่าแตงโมอาจจะยังไม่สุกเต็มที่ รสชาติอาจจะไม่หวานเท่าที่ควร
5.สังเกต ท้องแตงโมเป็นสีเหลือง
นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว การสังเกต “ท้องแตงโม” หรือส่วนที่แตงโมสัมผัสกับพื้นดินขณะเติบโต ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกแตงโมหวานฉ่ำได้ค่ะ
- ท้องแตงโมสีเหลืองขนาดใหญ่: บ่งบอกว่าแตงโมสุกนานบนเถา ทำให้มีรสชาติหวานฉ่ำ
- ท้องแตงโมสีขาวหรือเหลืองอ่อน: อาจหมายถึงแตงโมยังไม่สุกเต็มที่
- ท้องแตงโมสีส้มเข้ม: อาจสุกเกินไป รสชาติอาจจะไม่หวานอร่อย
6.เคาะเบาๆ ฟังเสียง
นอกจากการสังเกตสีและรูปร่างแล้ว การเคาะแตงโมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเลือกแตงโมหวานฉ่ำได้
- เสียงทุ้มลึก: แตงโมที่สุกกำลังดี เมื่อเคาะเบาๆ จะให้เสียงทุ้มลึก
- เสียงกลวง: ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงกลวง อาจหมายความว่าแตงโมสุกเกินไป เนื้ออาจจะแห้งหรือมีเม็ด
- เสียงสูง: ถ้าเคาะแล้วได้ยินเสียงสูง อาจหมายความว่าเปลือกแตงโมหนาเกินไป และเนื้อข้างในอาจยังไม่สุกเต็มที่
7.เกาเบาๆ ดูเนื้อใน
นอกจากวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การเกาผิวแตงโมเบาๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราเลือกแตงโมหวานฉ่ำได้
- ผิวหลุดง่าย: ถ้าเกาผิวแตงโมเบาๆ แล้วผิวหลุดออกง่าย และเห็นเนื้อสีเขียวขาวอยู่ข้างใต้ แสดงว่าแตงโมสุกแล้ว
- ผิวไม่หลุดง่าย: ถ้าเกาแล้วผิวไม่หลุดง่าย หรือเห็นเส้นสีเข้มอยู่ข้างใต้ แสดงว่าแตงโมอาจจะยังไม่สุกเต็มที่
เคล็ดลับ: วิธีนี้จะช่วยให้เราเห็นเนื้อในของแตงโมเบื้องต้น และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้น
8.ดูลายเพื่อเลือกแตงโมเมล็ดน้อย
นอกจากวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การสังเกตลายบนผิวแตงโมก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่น่าสนใจค่ะ
หากคุณต้องการแตงโมที่มีเมล็ดน้อย ลองสังเกตลายเส้นบนผิวแตงโมดู ถ้าลายเส้นบนผิวแตงโมห่างกัน แสดงว่าแนวของเมล็ดแตงโมด้านในก็จะมีระยะห่างมากขึ้นตามไปด้วย หมายความว่าคุณมีโอกาสได้แตงโมที่มีเมล็ดน้อยกว่านั่นเอง
- ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ควรทาน “แตงโม”
- 6 ประโยชน์ของ “แตงโม” ผลไม้สีแดงหวานฉ่ำประจำหน้าร้อน